วันอาทิตย์ที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2553

6 เหตุผลที่หนุ่มๆชอบหลอกจีบสาว

"ไม่รักแล้วมาจีบทำไม"...นี่คือเสียงก่นด่าจากปากสาวๆที่หนุ่มๆมักได้ยินกันอยู่เป็นประจำ แต่ผู้ชายพวกนี้ก็ไม่เคยคิดจะเลิกจีบเราเล่นๆ เสียที สาวๆแซบอยากรู้ไหมว่า...ทำไม

1. เรทติ๊งปิ๊งรัก
คำคมประจำเผ่าอะบอริจิ้นบอกไว้ว่า "ผู้ชายจะเชื่อมั่นในตัวเขาก่อน" นี่คือเหตุผลว่าทำไมหนุ่มๆถึงมีชีวิตอยู่ไม่ได้ถ้าขาดสาวๆเหลียวแล พี่แกจึงต้องจีบทิ้งจีบขว้างไปเรื่อยๆ เพื่อหล่อเลี้ยงต่อมอีโก้ของลูกผู้ชายไม่ให้ประสบภาวะอีโก้อุดตัน ส่วนใหญ่การจีบในโหมดนี้จะเป็นประเภทจีบแก้เซ็ง จีบฆ่าเวลา ไม่ค่อยทุ่มเทและทุ่มทุนอะไรมาก เพราะต้องการแค่มีสาวไว้โทรหาเวลาว่าง มีคนไปเป็นเพื่อนตอนดูหนังฟังเพลงก็แค่นั้น แต่ถ้าสาวๆจะหลงคิดไปเองว่าผมเอาจริง มันก็ช่วยไม่ได้นะคร้าบ
2. จีบแก้อย
ผู้ชายบางคนเป็นพวกหน้าบาง ทนถูกเพื่อถากถางว่าไม่มีแฟนไม่ได้ จะมีสสารเหนียวหนืดเกิดขึ้นบนใบหน้า หน้าจะเริ่มแดง ตัวสั่นสะท้าน ไม่กล้าสบตาประชาชน อาการแบบนี้วงการแพทย์วินิจฉัยแล้วบอกว่าเป็นระยะเริ่มต้นของต่อมยางอายแตกซ่าน ถ้าทิ้งไว้นานอาจลุกลามเป็นเนื้อร้าย พี่เขาก็เลยต้องรีบรักษาด้วยการหลีสาวไปเรื่อยๆ เพื่อให้พ้นสภาพคนไม่มีแฟน แต่โปรดอย่าถามว่ารักจริงหรือเปล่า เอาเป็นว่านาทีนี้มีเธอไว้แก้คำครหาป้องกันชาวบ้านนินทาก็แล้วกัน

3. แข่งกันจีบ
ผู้ชายพันธุ์แสบพวกนี้มักจะไม่มองว่าผู้หญิงเป็นสิ่งมีชีวิตเหมือนกับพวกเขา แต่ดันทะเล้นมาเห็นหุ่น 36 - 24 - 36 ของเราเป็นเหรียญทองโอลิมปิคไปเสียนี่ โดยเฉพาะผู้หญิงที่มีจุดขายโดดเด่นเป็นเกียรติเป็นศรีแก่คนที่จีบได้ เช่น สวยเด้งที่สุดในกลุ่ม เป็นสาวหยิ่งเชิดเริ่ดแหล่มไม่เคยเห็นผู้ชายอยู่ในสายตา เป็นต้น หนุ่มๆก็จะยิ่งเกิดพลังภายในให้อยากจีบ เพราะถ้าฟลุ๊คจีบติดขึ้นมา เธอจะเป็นเหมือนรางวัลแห่งความภาคภูมิใจว่าเขาคือยอดนักรักผู้ยิ่งใหญ่แห่งแผ่นดิน สาวๆที่มีหนุ่มมาจีบเยอะๆจึงไม่ควรหยิ่งผยองให้มากนัก เพราะไอ้ที่มารุมล้อมคุณคุณน่ะ มีไม่กี่คนหรอกที่รักคุณจริง

4. เพื่อนฝากมาจีบ
ปฏิสนธิออกมาเป็นแผนชั่ว ด้วยการไปทาบทามเพื่อนอีกคนซึ่งเน้นว่าต้องดูดีมีชาติตระกูลกว่าตัวเองประมาณร้อยเท่า ให้มาหลอกจีบเธอคนนั้นแล้วทิ้งซะ เป็นการแก้แค้น หนุ่มๆสายพันธุ์นี้นับว่ามีความเป็นลูกผู้ชายสูงส่ง น่าดีใจแทนคุณพ่อคุณแม่เหลือเกินที่ได้ลูกชายประเสริฐอย่างนี้

5. จีบทำสถิติ
ผู้หญิงที่เปลี่ยนแฟนบ่อยอาจล้มหล่นได้รับตำแหน่งมิสดอกไม้ทองคำ 2008 พร้อมมงกุฏและสายสะพายมาไว้ในครอบครอง แต่สำหรับผู้ชายต่อให้มีแฟนถี่แบบไม่เว้นช่องไฟ ก็ไม่มีใครก่นด่าแถมยังได้หน้าในฐานะลูกผู้ชายผู้ทรงเสน่ห์แห่งปีอีกด้วย หนุ่มๆเขาก็เลยชอบที่จะจีบเล่นๆเอาไว้เป็นเกียรติประวัติแห่งชีวิต อย่างน้อยเวลาเพื่อนโน้มน้าวก็จะได้เกทับได้ว่าสถิติของข้าก็ไม่น้อยกว่าแกเหมือนกันล่ะเฟ้ย

6. จีบเพราะหวงก้าง
อันนี้จะได้แก่บรรดาแฟนเก่าที่อยู่ดีๆก็รีเทิร์นกลับมาหาเราซะงั้น ทั้งๆที่ตอนเลิกกันประกาศเอาไว้เสียงดังฟังชัดว่างานนี้ไม่มีการไหลย้อนกลับแน่นอน เหตุผลที่แท้จริงมันอยู่ที่ความขี้หวงของหนุ่มๆ หรือที่ภาษาไทยเรียกว่า "หวงก้าง"นั่นเอง เพราะนิสัยของผู้ชายบางคนจะทนดูไม่ได้ที่แฟนเก่าถูกหนุ่มคนอื่นฉกไป โดยต้องโดนหมาสกัดดาวรุ่งชายนายอื่นด้วยการย้อนกลับมาจับจ้องแฟนเก่าไว้เป็นสมบัติส่วนตัวอีกครั้ง แต่เมื่อความรักมันหมดใจกันไปนานแล้ว ถึงจะคบกันใหม่ก็คงทนกันได้ไม่นาน เดี๋ยวก็ต้องตบตีกันฝาบ้านกระจายเหมือนเดิม

เมื่อความรักต้องจบกันแบบมีแตกหัก

เมื่อรักไม่ได้ก็จำเป็นต้องเลิก แต่รักจบใช่ว่าความสัมพันธ์จำเป็นจะต้องจบไปด้วย เพราะโอกาสแห่งการเป็นเพื่อนและรีเทิร์นมารักกันใหม่ยังมีความเป็นไปได้ แต่ถ้าจบกันบาดหมางแบบนี้ จากคนทีรักกันมากก็กลายเป็นคนที่เกลียดกันไปเลย

เหตุที่ 1 มีฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดพูดไม่จริง
เมื่อความจริงเป็นสิ่งที่ไม่ตาย แต่หากมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งพูดไม่ตรงกับความจริง หรือพยายามบิดเบือนความจริง แต่ท้ายที่สุดความกลับแตกเข้า โดยเฉพาะฝ่ายหญิงที่รู้สึกเหมือนนังหน้าโง่ที่โดนเขาหลอกได้หลอกดี ก็ยังไม่เข็ดกับการพลิกลิ้นพูดความเท็จของผู้ชาย ที่สำคัญคือผู้ชายมักจะอาศัยการพูดเล่นเฉลยคำโป้ปดของพวกเขา เพราะพอเราสำเนียกได้เองว่าสิ่งที่เขาเล่ามานั้นไม่มีมูลความจริง เขาก็ยืนกรานว่าเขาบอกคุรแล้วตอนที่เขาพูดแหย่พูดหยอกคุณ แต่เหตุที่ทำให้รักร้าวฉานแบบเลิกแล้วอย่าได้มาเจอหน้ากันอีกเลยก็คือ การโกหกเรื่องสำคัญมากๆที่ความจริงอาจสั่นคลอนความรักได้แบบปากบอกว่า "โสด" แต่ละ "เฉพาะคืนนี้" เอาไว้ในใจไม่พูด สุดท้ายโดนจับได้ว่าที่แท้มีเมียมีลูกแล้ว อย่างนี้มันน่ากอดนัก เอ้า! ไม่ใช่ มันน่า...นัก

เหตุที่ 2 เลี้ยงรักหลายทาง
แม้ความรักและการอกหักจะสอนให้คนเราไม่ปิดกั้นตัวเอง จากโอกาสความรักที่ผ่านเข้ามาโดยบังเอิญหรือจงใจก็ตาม แต่ความรักไม่ได้บอกให้เรานั้นรักหลายรักในเวลาเดียวกันไว้สำหรับรักเผื่อเลือกในเวลาเดียวกัน เพราะถ้าจับปลาหลายมือเช่นนั้นแล้ว ความรักของคุณก็จะไม่ได้ออกมาจากโจทย์ของอารมณ์และความรู้สึกที่แท้จริง แต่ออกจะดูเป็นความเจ้าชู้ปนเจ้าเล่ห์ ที่รู้ว่าตัวเองมีเสน่ห์และความงามของรูปลักษณ์พอที่จะตรึงความประทับใจที่จะรักได้ไม่ยาก คุณจึงสนุกกับการสลับรางสลับรักกับการคั่วผู้ชายในฐานะคนรักทีละหลายๆคน แต่ใช่ว่าทุกวันจะเป็นวันโชคดีของคุณ เพราะหากวันโชคร้ายวันนั้นรถไฟประจำทางรักของคุณทุกขบวนเคลื่อนขบวนมาเซอร์ไพร์สคุณในโอกาสความรักงามๆ อย่างวันวาเลนไทน์และวันครบรอบวันเกิดของคุณล่ะ การจราจรอันคับคั่งจนเกลือบเป็นจลาจลแบบนี้ รถไฟที่มาต้องมีการประสานงากันบ้างแหละน่ะ

เหตุที่ 3 แฉความลับที่รับกันไม่ได้
เมื่อรักไปไม่รอด สุดท้ายก็ต้องเลิกกันเป็นธรรมดา แต่เรื่องราวความลับกลับดันไม่จบ อาจด้วยเพราะกลัวเสียหน้าที่ตอนรักกันได้คุยฟุ้งวาดวิมานไว้เยอะ หรือกลัวโดนหาว่าเป็นฝ่ายโดนทิ้งก่อน ก็เลยขุดเรื่องราวความลับเสียๆหายๆของคนเคยรักกันออกมาแฉเสียสิ้น แสดงให้เห็นว่าฝ่ายตรงข้ามมีข้อด้อยข้อบกพร่องที่คนอื่นอาจมองไม่เห็น แต่สำหรับคนรักกันนั้นรับไม่ได้ ความลับประเภทที่แฉแล้วต้องร้าวฉานกันชัวร์ๆก็อย่างเช่น พฤติกรรมแปลกผิดวิสัยของมนุษย์มนาปกติ หรือความแปลกประหลาดที่เกิดขึ้นกับอวัยวะส่วนบนร่างกายที่ตัวเองพยายามจะปกปิด แต่ความปากสว่างของเค้าพยายามจะแฉ ดังนั้น เมื่อความลับไม่ได้เป็นความลับอีกต่อไปแล้ว ที่สำคัญยังเป็นการเปิดเผยจากปากคนเคยรักกัน จากรักก็กลายเป็นเกลียดกันเป็นธรรมดา

เหตุที่ 4 คนรักใหม่เป็นคนไม่ไกลตัวกันเลย
เลิกกันก็เจ็บระทมไปทั้งหัวใจแล้ว แต่ที่ทำให้แผลความรักยังช้ำในไม่หายสักทีก็เพราะความรักใหม่ของเขายังไปไม่ไกลตัวคุณเสียที เพราะแฟนใหม่ของเขากลับดันเป็นเพื่อนรักในกลุ่มเดียวกันกับคุณนี่เอง ยิ่งเห็นเวลาเขาหอม เขากอด ความรู้สึกและรสสัมผัสเก่าๆมันก็บีบบี้ความรู้สึกให้นึกถึงวันเก่าๆกับความรู้สึกอันหอมหวานช่านอารมณ์กับเขาคนเก่า แต่ที่จะทำให้ฉุนจนอยากที่จะเลิกคบหาสมาคมกับทั้งอดีตแฟนและเพื่อนรักก็คือ ไม่รู้ว่าเขาทั้งสองจะลอบรักลอบคบกันที่ไหน ตั้งแต่เมื่อไร คุณไม่เคยทราบ แต่ข่าวโครมลอยจากพรายกระซิบบอกมาว่าชายโฉดหญิงชั่วคู่นี้ลักลอบได้กันตั้งแต่คุณยังไม่เลิกกับเขาเลยน่ะดิ กริ๊ด!!

เหตุที่ 5 ไม่ทำตามสัญญา
ถึงเขาจะเป็นบุรุษที่คุณรักมากที่สุด แต่หากพฤติกรรมและการกระทำมันขัดแย้งกับสิ่งที่เขาเคยให้สัญญาไว้ ความผิดหวังไม่ได้ดั่งใจอาจเป็นเหตุให้ใจเริ่มถอดรัก ลดความรู้สึกดีๆที่มีต่อกันจนได้ เพราะเมื่อผิดคำพูดครั้งแรกเรายังพอให้อภัย แต่พอเริ่มตลบแตลงไม่ทำตามคำพูดที่พูดไว้ คุณก็จะรู้สึกเหมือนโดนหลอก เหมือนกับผู้หญิงที่ผู้ชายกำลังจะหลอก FUN ผู้ชายก็มักจะหว่านล้อมให้สัญญิงสัญญาต่างๆนานาว่าจะให้โน่นให้นี่ หรือแม้แต่จะรีบให้ผู้ใหญ่มาสู่ขอ แต่สุดท้ายทุกอย่างก็กลายเป้นวิมานในอากาศที่ผุ้ชายเขาวาดด้วยปากระบายด้วยลิ้น พอเขาได้ตามวัตถุประสงค์ความสุขของเขาแล้ว คำสัญญาก็เป็นเพียงนิทานหลอกเด็กโง่เท่านั้นเอง

เหตุที่ 6 ดูแคลนรักเดิม
แม้ความรักครั้งก่อนจะสุขจะทุกข์ หรือน่าประทับใจและน่าหน่ายเพียงใด แต่ไม่ใช่เวลาที่จะเอาความรักกับต่างคนต่างเวลามาเปรียบเทียบกัน เพราะอย่างไรความรู้สึกอิ่มอกอิ่มใจกับความรักปัจจุบันที่เกิดขึ้นนั้น ก็น่าจะเป็นสุขมากกว่าความรักเดิมที่จบไปแล้ว การเที่ยวปากมากวิจารณ์ความรักเก่ากับคนรักเดิมในทางลบ แบบว่ารักครั้งนี้สุขใจกว่ารักก่อนหน้านี้ยิ่งนัก หรือแฟนปัจจุบันนี้น่ารักและสวยกว่าคนก่อนเป็นไหนๆ การเปรียบเทียบในเชิงดูแคลนความรักเดิมเยี่ยงนี้ ถ้าหากเรื่องเน่าๆ จากความปากเสียแบบนี้มันลอยไปเข้าหูเจ้าตัวผู้ที่โดนเปรียบเปรยในเชิงหมิ่นศักดิ์ศรีความรักกันล่ะก็ คงเป็นเรื่องแน่ ไอผู้ชายเฮงซวย


เหตุที่ 7 เลิกกันแบบเจ็บตัว
ตอนเลิกกันก็น้ำตานองหน้า ทานอะไรไม่ลงไปหลายวันก็เรียกว่าพิษรักทำให้แย่แล้ว แต่คู่รักหลายคู่กลับใช้พละกำลังตัดสินความรัก หรือไม่ก็ระบายอารมณ์ความแค้นที่โดนบอกเลิกรักก่อน ที่ความรักยุติอย่างเป็นทางการ เหตุรักร้ายๆแบบนี้มักเกิดกับผู้หญิงที่มีแฟนบ้าพลัง บ้าอำนาจ คิดว่าตัวเองเป็นเจ้าของความรักแล้วจะเป็นของเจ้าของชีวิตด้วย จึงจะรุมสะกรัมยำคนรักอย่างไรก็ได้ ผู้ชายเจ็บใจเพราะโดนเลิกรัก เขาเลยต้องการให้ผู้หญิงที่ทำให้เขารู้สึกเจ็บนั้นรู้สึกเจ็บ แต่เจ็บที่กายอย่างที่เขาชอกช้ำบ้าง เขาจึงลงมือปฏิบัติซ้อมเธอเยี่ยงกระสอบทรายของนักมวย บางรายถึงอาการโคม่าปางตายก็มี เลิกรักกันรุนแรงแบบนี้ เป็นใครโดนถ้าไม่แจ้งตำรวจไปจับก็ถึงกับตัดสัมพันธ์ ถึงตายก็ไม่ยอมไปเผาผีกันล่ะ ชาตินี้!

5 วิธีเรียกร้องความสนใจจากชายหนุ่ม



1. แต่งตัวสบายๆ
การใส่ระบายรุงรังจะทำให้พวกผู้ชายเหมาเอาว่า คุณช่างเลือกผู้ชายพอๆกับการเลือกเสื้อผ้า ชุดยอดนิยมที่ได้ผลชะงัด...กางเกงยีนส์กับเสื้อกล้ามไง

2. เล่นเกม
การเล่นปาลูกดอกหรือเล่นพูลแสดงให้เห็นว่า คุณเป็นคนชอบความสนุกสนาน และเขาก็จะสามารถทำลายความแปลกหน้าได้อย่างง่ายดาย ด้วยการชมความสามารถของคุณ

3. แยกตัวออกจากกลุ่ม
ให้โอกาสชายหนุ่มด้วยการแยกตัวออกจากกลุ่มเพื่อนสาวที่ดูข่มขวัญ ไปเลือกเพลงที่ตู้เพลง หรือนั่งอ้อยอิ่งอยู่ที่เค้าเตอร์บาร์ เพื่อล่อเขาให้ก้าวเขามา

4. ปล่อยตัวตามเพลง
การทำตัวตามสบาย เต้นรำ หรือร้องเพลงออกมาดังๆ ไม่เพียงทำให้เขาสนใจคุณเท่านั้น แต่ยังทำให้เขารู้ว่า คุณก็ต้องการความสนใจเช่นกัน

5. ยืนขวางทางเขา
การอยู่ในระยะที่อาจชนกันได้โดยบังเอิญ เป็นวิธีเดียวที่ดีที่สุดในการทำให้ชายหนุ่มหันมามองและเปิดฉากสนทนากับคุณ โดยเฉพาะถ้าคุณส่งยิ้มหวานแบบขี้เล่นให้เขาด้วย

ความรักหลากสีสันของฉัน

กรุ๊ป A
เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านรักเขาข้างเดียว แต่เหตุการณ์รักแรกพบไม่เกิดขึ้นง่ายๆ เพราะคนกรุ๊ป A จะตกหลุมรักก็ต่อเมื่อแน่ใจแล้ว รักใครยากแต่เป็นรักที่ยั่งยืน แถมยังรักเดียวใจเดียวด้วย ควารักของคนกรุ๊ป A จะเป็นประเภทรักแรกที่ยากลืมเลือน และเป็นความรักสีชมพูสดใสเสียด้วย

กรุ๊ป B
จะไม่ตกหลุมรักใครแบบส่งเดช แต่ถ้าเจอคนที่ถูกใจก็จะเฝ้าคิดถึงแต่คนนั้นทั้งวันทั้งคืน ส่วนมากจะเป็นฝ่ายบอกรักก่อน ซึ่งถ้าถูกปฏิเสธก็จะไม่แคร์ เพราะอีกเดี๋ยวคนกรุ๊ป B ที่มีหัวใจซุกซนก็หาคนใหม่มาช่วยดามหัวใจได้ ความรักของคนกรุ๊ป B ที่ออกจะเจ้าชู้นิดๆเป็นเหมือนกับสีม่วงแสนสดใส

กรุ๊ป O
เป็นคนที่ตกหลุมคนง่ายหรือนี่! แต่เพราะเป็นคนที่ทุ่มหมดใจเพื่อความรัก ดังนั้นจึงไม่มีวันให้อภัยพวกเจ้าชู้เด็ดขาด แน่นอนว่าเวลาที่ความรักไม่ได้สวยงามดังปรารถนาก็ต้องผิดหวังเป็นธรรมดา แต่ด้วยความที่เป็นคนละเอียดอ่อนความรักจึงมีสีแดงสดอยู่ตลอดเวลา

กรุ๊ป AB
ค่อนข้างขาดความกระตือรือร้น ถึงจะมองหาผู้ชายที่ทั้งฉลาด หล่อ เล่นกีฬาเก่ง แต่เพราะไม่กล้าบวกกับขาดความกระตือรือร้นจึงเริ่มคบจากคำว่าเพื่อนก่อน แต่สุดท้ายชายในฝันก็ยิ่งห่างไกลคำว่าแฟนออกไปทุกที ถ้าอยากให้ความรักสดใสละก็ ต้องรู้ความต้องการของหัวใจตัวเองก่อนนะ

9 เรื่องที่คุณไม่ควรทำในยามพบกับพ่อแม่ของเขา

1. พยายามที่จะได้เปรียบในทางจิตวิทยา ในขณะที่จับมือกับพ่อของเขา ด้วยการบีบมือของเขาจนแน่น และยิ่งบีบแน่นขึ้นไปอีกในยามจับมือกับแม่ของเขา

2. ฉวยโอกาสทุกขณะที่บทสนทนาขาดตอนไป หยิบเอาวอล์คแมนของคุณขึ้นมาใส่หูฟัง

3. พูดว่า "ฉันได้ยินเรื่องของครอบครวคุณมาหมดแล้ว และฉันอยากให้คุณรู้ว่าไม่จำเป็นต้องเขินอายอะไรต่อหน้าฉัน เชื่อฉันเถอะค่ะว่า ตระกูลฉันก็ร้ายพอๆกันแหละ"

4. ใช้ข้อเท็จจริงที่ว่าพ่อของเขาเข้ากับคุณได้เร็วกว่าแม่ของเขา เพื่อทำให้ทั้งสองคนขัดแย้งกัน สร้างรอยร้าวในชีวิตแต่งงานของทั้งสองคน ที่แม้แต่เวลาก็ไม่อาจเยียวยาได้

5. หยิบของกินเล่น หรือเศษตังค์ที่วางอยู่ และขนมปังใส่กระเป๋าของคุณ ไม่ว่าคุณจะถังแตกขนาดไหนก็ตาม และถึงแม้ว่าคุณจะแน่ใจว่าไม่มีใครเห็นก็เถอะ

6. พิสูจน์ให้พ่อแม่ของเขาเห็นว่า คุณสนิทสนมกับลูกชายของพวกเขาแค่ไหน ด้วยการเรียกชื่อเล่นส่วนตัวที่คุณตั้งให้เขาตลอดเวลา

7. พูดกับแฟนของคุณเป็นภาษาต่างประเทศ ภาษาใดก็ตามที่เขาเข้าใจ แต่พ่อแม่ของเขาไม่เข้าใจ

8. พูดว่า "นี่เขาคงติดนิสัยมาจากคุณละสิท่า"

9. กอดรัด จูบ และเคล้าเคลียแฟนของคุณ รวมไปถึงพ่อของเขาด้วย

ทำอย่างไร ถ้าคบกับคน 'ขอโทษไม่เป็น'

คนบางคนติดนิสัยไม่ยอมขอโทษจริงๆ สร้างความอึดอัดขัดใจให้กับฝ่ายถูกกระทำอย่างเราเป็นอันมาก ถ้าสาวแซบมีเพื่อนเป็นคนอย่างนี้จะจัดการอย่างไรมาดูกันค่ะ
คนปากหนักแบบนี้ แยกได้เป็น 3 จำพวก
1. แก้ตัวไปน้ำขุ่นๆ
แทนที่จะขอโทษ คนจำพวกนี้จะเลื้อยหนีลงน้ำไปหน้าตาเฉย แม้จะต้องเอาหัวหูไถจนถลอกปอกเปิกนางก็ยอม เพราะยังไงๆ ก็ดีกว่าจะยอมรับความจริงอันโหดร้ายว่าตัวเองได้ทำความผิดลงไปแล้ว วิธีแก้ตัวของคนประเภทนี้มักปัดความรับผิดชอบไปให้คนอื่น หรือยกเหตุผลมั่วๆชักแม่น้ำปิงวังยมน่านเจ้าพระยามาครบทุกสาย จนคนฟังระทวยงวยเง็งไปเองไม่ก็พยายามแก้ตัวด้วยกิริยาแบบเด็กๆจะว่าแอ๊บก็ใช่ จะว่าบ้าก็ไม่เชิง แต่เอาเป็นว่าดูแล้วน่าเห็นใจก็แล้วกัน
ลักษณะเด่น
1. มักจะมีนิสัยแบบเด็กๆไม่มีความรับผิดชอบ
2. หัวเราะร่าเริงทั้งวัน แต่หาสาระบ่ได้
3. ไม่ค่อยจริงจังกับอะไร นิยมจับกลุ่มนินทาและเห่อตามกระแส

2. ทำตัวน่าสงสาร
สาวในกลุ่มที่สองคาดว่าน่าฝึกวิชาการต่อสู้มาจากละครโทรทัศน์ในประเภทแถวๆสุวรรณภูมิ เธอก็เลยสามารถสกัดน้ำตาได้ประเภทหนึ่งน้ำก๊อก ลองใครเอาความผิดที่เธอทำไว้มากล่าวหาแม่เจ้าประคุณซึ่งหน้าดูสิ อาวุธชีวภาพของเธอก็จะหลั่งไหลออกจากสองตาทันที ผู้หญิงแบบนี้มักจะอ้อนเก่ง รู้จักใช้มารยาหญิงให้เป็นประโยชน์ แถมยังรู้อีกด้วยว่าจะพูดอย่างไรผู้ชายถึงใจอ่อน แต่กับผู้หญิงด้วยกันถึงจะอ้อนบ้างแต่ก็ไม่ถึงกับร้องไห้ เพราะคุณเธอรู้ว่าน้ำตาผสมน้ำมันพรายเจ็ดป้าช้าของหล่อนนั้นจะเสื่อมประสิทธิภาพเมื่อเจอกับคนเพศเดียวกัน
ลักษณะเด่น
1. แต่งตัวสวย ดูเป็นผู้หญิงๆ
2. มักเอาแต่ใจตัวเอง หรือถูกเลี้ยงมาแบบประคบประหงม
3. ชอบอยู่กับแฟนมากกว่าเพื่อน
4. แม้จะอยู่กับเพื่อนผู้หญิง เธอก็คล้ายๆจะเป็นลูกแหง่ของกลุ่ม

3. โวยวายไว้ก่อน
จะว่าไปก็เป็นความฉลาดของสตรีนางนี้อยู่เหมือนกัน คือก่อนที่คนอื่นจะได้แจกแจงความผิดของนางออกมาให้โลกรู้มากไปมากนี้ นางก็จะทำท่าโมโหโกรธา สกัดดาวรุ่งไว้ก่อน พอฝ่ายตรงข้ามเจอรังสีอำมหิตที่แผ่กระจายออกมาก็จะน้ำลายติดคอ พูดไม่ออกบอกไม่ถูกด้วยความรักตัวกลัวตายขึ้นมาทันที ทีนี้หล่อนก็สามารถลอยนวลไปได้ประหนึ่งเป็นผู้บริสุทธิ์ร้อยเปอร์เซ้นต์
ลักษณะเด่น
1. เชื่อมาตั้งแต่เกิดว่าฉันต้องถูกเสมอ
2. มั่นใจในตัวเองมาก ไม่ยอมคนเกลียดการพ่ายแพ้
3. มักไม่กล้าโวยวายถ้าอีกฝ่ายดูน่ากลัวกว่า

4 การออกเดทยามกลางวันอันแสนเซ็กซี่

1. สนุกกับหนัง
อุณหภูมิกำลังแสนจะอบอ้าว ฉะนั้น พุ่งตรงไปยังโรงหนังที่แสนเย็นฉ่ำที่ไหนซักแห่ง เพื่อดูหนังให้เพลินใจท่ามกลางความเย็นฉ่ำ ตอนนี้มีหนังน่าดูมากมายหลายเรื่อง ทั้งหนังรักหวานฉ่ำและหนังบู๊ดุเดือดที่เขาชอบใจ หลังจากนั้นก็ทำตามธรรมเนียบแบบเก่าๆที่กำลังกลับมานิยมอีกครั้ง นั่นก็คือ กินไอศครีมด้วยกัน ขอช้อนมาอันเดียวนะทูนหัว จะได้เอาไว้ผลัดกันป้อนไงล่ะ

2. กีฬาพาเพลิน
กีฬาคลาสสิคต่างๆกำลังกลับมาเป็นที่นิยมกันอีกครั้งในตอนนี้ และเช่นเดียวกับค็อกเทลแบบคลาสสิคทั้งหลาย พิสูจน์ตัวเองว่าคุณสามารถเฆี่ยนหนุ่มที่พอจะเป็นแชมป์วิมเบิลดันคนนั้นได้ในการเล่นเทนนิสด้วยกัน โดยคนแพ้ต้องเลี้ยงแคมปารีคนชนะ แต่ถ้าไม่ได้เกิดมาเก่งแบบ แอนนา คูร์นิโคว่า ก็ไปไดร์ฟกอล์ฟสนามเล็กแทน แล้วเปลี่ยนราวัลเป็นยินโทนิค

3. กิจกรรมแบบคนมีคู่
บรรยากาศความรักกำลังอบอวล เช่นเดียวกับการกระทำหลายอย่างที่คุณคิดว่าเชยและน่าเบื่อเกินไป แถมยังประกาศโจ่งแจ้งเกินไปว่าเราเป็นแฟนกัน ก็กำลังเป็นที่นิยมกันอยู่ในตอนนี้ ฉะนั้น เช่าจักรยานสำหรับคนสองคนมาขี่เล่น เรือถีบสำหรับสองคนในสวนสาธารณะ หรือไม่ก็ไปให้หมอดูทำนายอนาคตของคุณสองคน

4. เชียร์กีฬาแบบสาวห้าว
ไม่มีรายการแข่งขันกีฬารายการฬหญ่ๆที่น่าสนใจในช่วงนี้งั้นหรือ? การแข่งขันกีฬาระดับมหาวิทยาลัยก็น่าสนุกได้เหมือนกันนะ เขาจะชอบที่คุณอยากดื่มเบียร์และกินฮอทด็อกในระหว่างการเชียร์กีฬาอย่างเมามัน จากนั้น ก็ชอนกันไปนั่งบาร์ที่มีกีฬาให้ดูกันต่อ เพื่อไม่ให้ความเมามันขาดตอน ถึงตอนนั้นจะยังหัววันอยู่ก็ตาม... จะไปสนใจทำไมกัน?

ต้นเหตุการนอกใจของผู้หญิง เริ่มมาจากไหน?

นี่คงจะเป็นคำถามที่หนุ่มๆก็อยากรู้ ส่วนสาวๆก็อยากได้คำตอบ จะได้เอาไว้ป้องกันตัวเองไม่ให้ถูกวิญญาณคาสโนวี่เข้าสิงได้ ถ้าอยากรู้นัก สไปซี่จัดให้ค่ะ

เฟลิร์ตแค่ขำๆ
ข้อนี้เป็นประตูสู่การมีกิ๊กอันดับต้นของโลก ตอนแรกผู้หญิงส่วนใหญ่มักคิดว่าจะคบเล่นขำๆ พอให้รู้ว่ามารยาทผู้หญิงของเรายังไม่หมดอายุ แต่พอเจอหนุ่มสวนกลับด้วยความหล่อทะลุแป้งน้องนางผู้ริลองของก็จนปัญญาจะป้องกันพรมแดนหัวใจไว้ได้ เผลอแป๊ปเดียว อ้าว! เสียสิทธิสภาพนอกอาณาเขตให้เขาไปซะแล้ว โดยเฉพาะถ้าหากชายหนุ่มที่คุณเฟลิร์ตด้วยเป็นคนที่แอบรักคุณอยู่ ผู้หญิงจะยิ่งใจอ่อนได้ง่าย เพราะสายตาเว้าวอนอ้อนให้รักของเขามันทำให้ผู้หญิงรู้สึกว่าตัวเองช่างแสนจะมีค่า ไปๆ มาๆ เลยทิ้งคนเก่าไปหาคนใหม่เสียเลย

เอาคืนหวานใจ
เป็นมาตรการล้างแค้นที่สตรีสากลกลุ่มหนึ่งนิยมใช้ เพื่อหวังจะให้แฟนหนุ่มน้ำตาเช็ดหัวเข่า แต่บังเอิญนางลืมเช็คหัวใจตัวเองว่ามันไม่ได้แข็งแรงอย่างที่คิด แก้แค้นยังไม่ทันจะสำเร็จเลยเผลอใจตกหลุมรักกิ๊กไปซะงั้น ที่เป็นอย่างนี้เพราะตอนที่คุณเข้าไปตีสนิทอิ๊อ๊ะป๊ะติ๊งโหน่งกับหนุ่มอื่นนั้น คุณตั้งใจจะทอดสะพานมากกว่าคำว่าเพื่อนเช่นกัน ความสวีตหวานน้ำตาลเรียกพี่แบบนี้ไม่ใช่จะตั้งรับกันได้ง่ายๆ แล้วมีหรือคุณจะทนไหว

คบไว้เผื่อเลือก
เรียกว่าจงใจมีชู้โดยเจตนา เป็นนโยบายที่ลูกผู้หญิงหลายใจไม่ยอมพลาด การมีกิ๊กในกรณีนี้ส่วนใหญ่จะรักง่ายหน่ายเร็วแต่ถูกแฟนจับได้ยาก เพราะคนหลายใจมักค้นพบตัวเองมาตั้งแต่ยังละอ่อน กว่าจะแก่ป่านนี้นางก็เข้าคอร์สอบรมฝีมือแรงงานจนความสามารถในการสับรางขั้นเทพไปแล้ว ถ้าแฟนหนุ่มไปเก่าเกมจริงๆ ยากนักที่จะตามความเจ้าเล่ห์ของผู้หญิงคนนี้ทัน

สั่งสอนให้หลาบจำ
เรียกว่ามีชู้เพราะสถานการณ์บังคับ มักเกิดกับสาวๆที่มีแฟนไม่เอาไหน ไม่ดูแลไม่เอาใจใส่หรือไม่ก็คบนานจนยานแต่ไม่ยอมขอแต่งงานเสียที สาวๆเลยต้องงัดไม้ตายออกมากำราบความโอหังของแฟนหนุ่ม ด้วยการควงคนอื่นมาเย้ย แต่พอคลุกคลีตีโมงกับมือที่สามบ่อยๆเลยเกิดปิ๊งปั๊งทังก้า ลืมว่าตัวเองมีแฟนแล้วซะงั้น

ฉันเป็นสาวมั่น
ได้แก่พวกหญิงมั่นที่เชื่อว่าหัวใจตัวเองผ่านยุทธภูมิเขาชนไก่มาแล้ว รับประกันความอึดถึกทนสามารถต้านทานพายุความหล่อในทุกกรณี พวกนี้ล่ะที่มักจะมีกิ๊ก เพราะความที่นางมั่นมากเลยชอบลองของกับหนุ่มเจ้าเส่น่ห์ทั้งหลาย พอไปเจอรายที่หล่อจริงเส่นห์แรงจริงเข้าหัวใจที่คิดว่าแข็งเป็นหินเลยพังโครม ซ้ำร้ายพอชอบไปแล้วสาวมั่นมักจะตัดใจยาก เนื่องจากคุณเธอรู้ดีว่าตัวเองต้องการอะไร คนที่เธอชอบจึงต้องมีดี ตรงสเป็คสุดๆจนตัดใจไม่ลง

โพรไฟล์ดีเกินมองข้าง
คนที่ทำแบบนี้มักจะเข้าใจสัจธรรมของโลกที่ว่ารักแท้แพ้เงิน หรือความรักมันเกินไม่ได้ประมาณว่าแฟนที่คบอยู่นั้นไม่ได้หลุดมาจากแค็ตตาล็อกผู้ชายในฝัน แต่สมัยนั้นที่ยอมคบเขาเพราะอยู่ในช่วงผู้ชายขาดแคลน หาแฟนทำยายาก ต่อมาก็เกิดไปเจอคนใหม่ที่สรรพคุณในการเทคแคร์ล้ำเลิศกว่า รวยกว่าหล่อกว่า จูนกันติดมากกว่า ความงกเลยสั่งการให้รีบคว้าไว้ทันที เป็นที่มาของสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่ากิ๊กอันโด่งดังนั่นเอง

วันเสาร์ที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2553

6 นิสัยน่าเบื่อของผู้หญิงที่ทำชายคนรักเซ็ง

แรกเริ่มความรักผู้หญิงเราอาจจะไม่ได้แสดงออกซึ่งความเป็นตัวเอง และพฤติกรรมพิมพ์นิยมของผู้หญิงเรามากนัก นิสัยสุดที่ชายจะเอือมต่อไปนี้จะเริ่มปรากฏก็ต่อเมื่อความรักเริ่มไม่ได้สวย ความรักเริ่มสนิทกันพอที่จะแสดงตัวตนหรือธาตุแท้ความเป็นผู้หญิงยิงเรือออกมา

มีความต้องการมากมายและหลากหลาย
สาวที่มีความต้องการอย่างมากมายและอย่างไม่สิ้นสุด หมายถึง หญิงที่ขยันหมั่นเรียกร้องความสนใจจาก คนรักของเธอไงเล่า เช่น อยากให้เค้าจำวันที่เธอคิดว่าสำคัญให้ได้ เพื่อจะได้จุ๊งจิ๊งแสดงความโรแมนติกหวานแหววต่อกัน หรือเธอพาไปเที่ยวในสถานการณ์ที่ที่เธอฝันอยากไปมาตลอดชีวิตแต่ไม่เคยได้ไปสักทีไง ไม่งั้นก็อยากให้วันหยุดสุดสัปดาห์เป็นวันของสองเรามากกว่าเป็นวันที่เค้าเอาแต่นัดเพื่อนๆไปตีกอล์ฟกันน่ะซี นี่ยังไม่รวมถึงความต้องการด้านสิ่งของวัตถุอีกนะ เฮ้อ! ได้ยินแค่นี้ฝ่ายชายก็หน่ายและเกิดอาการพะอืดพะอมแล้วรู้ไว้เถอะ

Emotional มากเกินไป
แต่เรื่องนี้จะโทษฝ่ายหญิงข้างเดียวก็ไม่ถูก เพราะการแสดงอารมณ์ทางสีหน้าและอาการขี้วีนน่ะ คงไม่เกิดขึ้นอย่างไม่มีสาเหตุหรือเหตุผลร้อก ดีไม่ดีบางทีเป็นเพราะคนรักเองนั่นแหละที่ทำให้เธอโมโหและหงุดหงิด เช่น สมมุติถ้าเค้าชอบไปเที่ยวผู้หญิง แต่โกหกแฟนสาวเป็นประจำว่าเป็นคนธรรมะธัมโม หากเธอจับได้ขึ้นมา ถ้าเธองอนตุ๊บป่องก็ยังถือว่าน้อยไปด้วยซ้ำ เพราะเป็นใครก็คงขอเวลามาตั้งสติกันใหม่ทั้งนั้น แต่จะใส่อารมณ์ขนาดไหนก็อย่าถึงกับแสดงอาการเป็นพายุทอร์นาโดที่มีพลังทำลายล้างทุกอย่างให้ราบเป็นหน้ากอง อย่างคงไม่ดีแน่ ผู้ชายน่ะชอบผู้หญิงใจเย็นเป็นน้ำแข็งค่ะ

พร่ำบ่นไม่ยอมหยุด
แม้เขาจะรับได้ในนิสัยช่างพูดของคุณ แต่หากมีปัญหาอะไรที่ขัดใจคุณแต่ละครั้งแล้วคุณก็แก้ปัญหาเหล่านั้นด้วยการพร่ำบ่นซ้ำซาก เขามีทางเลือกสองทาง คือ หนึ่งเดินเลี่ยงคุณไปเพื่อไม่ต้องการฟังประโยคแล้วประโยคเล่าที่เขาต้องทำเพื่อตามใจคุณหรือ สองทำเป็นยอมรับผิดและขอโทษทุกครั้งเพื่อเอาใจคุณให้หยุดบ่นหรือโมโห ดังนั้นคุณสาวๆคนไหนไม่อยากให้แฟนหนุ่มต้องเก็บกดทำใจ ก็เลิกพฤติกรรมจ้อไม่หยุดซะบ้างนะคะ

ใกล้ชิดกับกลุ่มเพื่อนและวงสังคมของเขามากเกินไปนิด
ไม่ว่าจะเป็นสังคมเพื่อนๆของเขา หรือครอบครัวที่ใกล้ชิด(โดยเฉพาะกับคุณผู้ชายคนอื่น) แค่แสดงอาการหัวเราะต่อกระซิกกับพวกผู้ชายเหล่านั้นให้เขาเห็นซักนิด คงเป็นเรื่องไม่เล็กแน่ๆ นอกจากนั้นการทำตัวสนิทสนมกับเพื่อนๆของเขามากเกินไป อาจเป็นการก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวของผู้ชายด้วย บางทีเขาอาจต้องการอยู่กับเพื่อนๆสังสรรค์กันตามประสาชายโสดและโฉดค่ะ

เอร็ดอร่อยกับการเม้าส์เรื่องชาวบ้านมากเกินไป
คงเพราะผู้ชายทั่วไปไม่ค่อยสนเรื่องซุบซิบนินทาเกี่ยวกับเรื่องต่างๆนานาสักเท่าไหร่ เวลาหนุ่มๆคุยกันทีจึงมักหนีไม่พ้นเรื่องงาน, เรื่องการเมือง, เรื่องกีฬา ซึ่งเป็นเรื่องกว้างๆไม่ได้เจาะลึกเจาะจงไปในรายละเอียดของตัวบุคคลน่ะซี ดังนั้นเวลาเค้าเห็นสาวๆคุยกันหรือซุบซิบกัน จึงไม่ค่อยอยากเข้าไปร่วมก๊วนขบวนการแฉคนโน้น แขวะคนนี้ ดูถูกคนนั้นด้วยไง แต่อุ๊บอิ๊บก่อนว่ามีหนุ่มหลายคนที่ชอบเกาะกลุ่มอยู่กับสาวๆคอยซุบซิบคนอื่นเหมือนกันนะ

ล้ำเส้นความเป็นส่วนตัวมากเกินไป
ถึงแม้จะรักกัน ก็ไม่ได้หมายความว่าฝ่ายหญิงจะเข้าไปจุ้นจ้านในชีวิตของฝ่ายชายได้ทุกอย่างเสมอไปซะเมื่อไหร่? ดังนั้นสาวๆอย่าพยายามทำแบบว่าชอบเข้าไปยุ่งกับชีวิตส่วนตัวของฝ่ายชายในส่วนที่เค้าไม่อยากให้เธอเข้าไปตอแยด้วยเลย แถมผู้หญิงบางคนยังถือคติเข้าไปก้าวก่ายเรื่องของเค้าได้ แต่ห้ามไม่ให้เค้าเข้าไปวอแวกับเธอก็มีเป็นอย่างงี้ก็ไม่แฟร์ แค่อย่าทำให้เค้ารู้สึกอึดอัดก็พอ

8 ภาษากายของชายฟ้องว่าเขาสนใจคุณ

ความสนใจหรือความชื่นชอบในตัวผู้หญิงเรา เป็นเรื่องที่สังเกตจากปฏิกิริยาท่าทางได้ไม่ยาก โดยเฉพาะจากภาษากายของผู้ชายมันออกจะแสดงการกระทำบางอย่างที่ฟ้องว่า "ผมอดสนใจคุณไม่ได้" หรือ "ผลกำลังปิ๊งคุณอยู่"


จ้องแบบตาไม่กะพริบ
การจ้องแบบนี้ออกจะชัดเจนว่าเป็นการแสดงออกว่าเขาคิดอย่างไรกับคุณ การจ้องของผู้ชายแบบที่คุณเองเป็นจุดโฟกัสในสายตาของเขา มันแสดงออกว่าคุณเป็นวัตถุที่ชวนมองที่สุดในสายตาของเขา ทั้งนี้ความสนใจอันนี้อาจจะเกิดขึ้นได้จากเสื้อผ้าอันน้อยชิ้นของคุณ ที่โชว์เนื้อหนังมังสาซะเขามองตาไม่กะพริบด้วยความหื่น

ปากอ้าเผยอ
ก็เหมือนการที่ผู้หญิงเราเห็นใครสักคนแล้วติดใจตั้งแต่แรกพบ จนจ้องมองแบบอ้าปากหวอและน้ำลายสอทำนองนั้นแหละ การที่อ้าปากค้างเช่นนี้มันเป็นความรู้สึกที่ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ชนิดที่ว่าชอบมากประหนึ่งเห็นของหวานแล้วอยากทาน

จมูกบานออก
อาการจมูกขยายออกเช่นนี้เกิดขึ้นเฉพาะบุคคลและมักจะเกิดขึ้นกับผู้ชายจมูกทรงชมพู่ผลใหญ่ เวลาที่เขาเห็นวัตถุมีชีวิตอันต้องตาต้องใจของเขา เขาก็มักจะเริ่มมีอาการจมูกแดงก่อน จากนั้นพื้นที่จมูกของเขาจะเริ่มขยายใหญ่ขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยปกติผู้ชายจมูกโตพวกนี้จะไม่ชอบแสดงให้ใครเห็นปรากฏการณ์จมูกบานของเขามันเป็นความอับอายที่กลัวโดนล้อเลียน แต่ในภาวะคับขันที่ทำให้เขาเขินอายขึ้นมา เขาก็จะไม่สามารถคอนโทรลจมูกตัวเองเหมือนกับใจที่ลอยไปหาคุณไปแล้ว

ทำตัวเป็นจุดสนใจ
บางคนจีบใครตรงๆไม่เป็น หรือไม่กล้าจีบก็ใช้วิธีสร้างความเด่นขึ้นมาในกลุ่มเพื่อน เช่น ทำเป็นตัวตลกบ้างล่ะ หรือพูดเสียงดัง ทำไงก็ได้ขอให้สาวที่เขาหมายปองหันมาสังเกตเขาได้ก็พอ นอกจากนี้การทำตัวเด่นหรือเว่อร์เข้าไว้เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์ตัวเอง และยังเป็นการแย่งความสนใจที่ฝ่ายหญิงอาจจะรั่วหล่นไปหาผู้ชายคู่แข่งแบบนี้เรียกว่าเป็นการสกัดดาวรุ่งนั่นเอง


อวดเบ่ง
นอกจากทำตัวเป็นจุดสนใจที่ดูจะนอกหน้านอกตาคนอื่นแล้ว ผู้ชายบางคนก็พยายามจะสร้างอิทธิพลความเป็นผู้ชายให้ตัวเอง ด้วยการจัดหาหรือแสดงสิ่งที่ตนมีเหนือผู้ชายคนอื่นอย่างอำนาจที่ผู้ชายบ้าอำนาจจะอวดว่าเขามีตำแหน่งใหญ่โตแค่ไหน หรือจะเป็นความมั่งคั่งทางการเงิน ที่ผู้ชายบ้านรวยก็จะพยายามแสดงตนในความสามารถในการจ่าย หรือเข้าทำนองอวดรวยให้สาวได้อู้หู! วิธีเรียกความสนใจพวกนี้มักเป็นวิธีการของผู้ชายใจแคบที่คิดว่าวัตถุหรือสิ่งของนอกกายจะสร้างคุณค่าและเรียกความสนใจจากผู้หญิงได้ค่ะ

ยืนเอามือเท้าเอว
การที่ผู้ชายเอามือมาเท้าที่เอวของตัวเอง ถือเป็นสิ่งแสดงออกที่เน้นถึงความมั่นใจในขนาดและรูปร่างของเขาเชียวนะนั่น เพราะโดยธรรมชาติคนเรามักจะวางมือเอาไว้ในส่วนของร่างกายที่เรานั้นมั่นใจมากที่สุดใช่รึเปล่า งั้นถ้าเขาเท้าสะเอวหหรือสะโพกก็หมายถึงเขาเต็มใจให้คุณได้มองหรือสัมผัส และชื่นชมในสัดส่วนของเรือนร่างที่เขาภูมิใจน่ะสิค่ะ

แอบมอง
ฃที่ต้องแอบเพราะยังไม่กล้าและยังกลัวคนอื่นจับความรู้สึกได้ โดยเฉพาะคนที่ถูกมองด้วยแล้ว เขาจะคอยทีเผลอและแอบสอดส่องสายตาคุณอยู่บ่อยครั้ง แบบที่คุณไม่สามารถที่จะจับพิรุธหรือสังเกตเห็นการลอบมองของเขาได้ เขาจะเลิกแอบมองคุณก็เมื่อเขาสามารถยกระดับการมองจากการแอบมองเป็นการจ้องมองคุณได้ ก็ต่อเมื่อคุณไม่มีทางสังเกตเห็นการมองของเขา อย่างเช่นในกรณีที่เขาเดินตามหลังคุณ

ขยับเนกไท
บางคนไม่ทราบวัตถุประสงค์ของการทำแบบนี้ ผู้ชายที่ทำเป็นขยับเนกไทเป็นการเช็คตัวเองเพื่ออยากให้สาวๆเห็นว่าเขาหล่อเนี้ยบ หรือไม่ก็เป็นปฏิกิริยาขัดเขินที่ไม่รู้จะตอบสนองความสนใจเบื้องหน้าอย่างไร จึงเอามือจับเนกไทดีกว่า

เเก้ปัญหาหัวใจ....ทำไงดี?

1. ลองเริ่มวันใหม่กับสิ่งใหม่ คุณสองคนลองเปลี่ยนกิจวัตรเก่า ๆ เเบบเดิม ๆ ขจัดออกไปซะ หันไปทำอ่ะไรสร้างเเรงบันดาลใจใหม่ ๆ การได้ฟันฟ่าอุปสรรคด้วยกันจะทำให้คนทั้งคู่อดทนกันเเละกันมากขึ้น


2. หาช่วงเวลาเหมาะ ๆ พากันไปสถานที่ที่คุณสองคนประทับใจ ความทรงจำในอดีตที่เคยหวานซึ้งมันจะหวนกลับมา (เอ้า...อย่าขำซิ จิง ๆ น่ะ) เวลาของช่วงที่คบกันเเรก ๆ นั้นดีที่สุด ยิ่งของที่คูรเคยให้เค้าชิ้นเเรกลองหาเอาไปให้เค้าดูน่ะ อาจจะทำให้ความรู้สึกเก่า ๆ ที่ดีๆ กลับมา เค้าจะเข้าใจสิ่งที่คุณกำลังจะบอกมากขึ้น


3. ในเมื่อยังรักกันใช่มั๊ย อย่ารอว่าเมื่อไหร่เค้าจะทำดีอะไรให้คุณ หรือคุณต้องทำดีกับเค้า เเค่สิ่งเล็กน้อยที่เค้าทำให้ทุกอย่างล้วนมีความหมาย ตอนนี้คุณหรือเธออาจไม่รู้สึกอะไร เเต่เมื่อถึงเวลาต้องเเยกกันไป ใครจะไปรู้อนาคตมันไม่เเน่ เก็บความทรงจำดี ๆ ไว้กับตัวดีกว่า


4. เปิดโอกาศหาเวลานั่งคุยกัน คุณกับเค้าต้องมีเวลาได้นั่งคุยกันอย่างจริงจังเสียที ปรับความเข้าใจกันใหม่ ชอบไม่ชอบอะไรก็บอกกันตรง ๆ จะได้เอามาปรับปรุงให้พอใจกันทั้งสองฝ่าย


5. หากทำทุกอย่างเเล้วยังไม่มีอะไรดีขึ้น ก็ต้องกลับไปนั่งทบทวนเเล้วว่าจะเอายังไงต่อไปดี มันก็มีให้เลือกเพียงเเค่สองทางเท่านั้น คือ เลิกกันหรือคบกันต่อไป คุณยังรักเเฟนคุณอยู่รึป่าว ถ้าตอบว่าใช่ก็เเสดงว่า สิ่งเดียวที่คุณทำได้นั้นคือ ประคับประคองความรักของคุญต่อไป มันไม่ผิดนี่ถ้าเรายังรักเค้า สิ่งเดียวที่คุณน่าจะทำได้ดีที่สุดคือ ให้เค้ารู้ว่าคุณรักเค้า มากเเค่ไหน

วันพฤหัสบดีที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2553

เสน่ห์หญิงอยู่ตรงไหน?

ผู้หญิงเรานั้นอยากจะรู้จริงๆว่าผู้ชายทั้งหลายคิดว่าเสน่ห์ของผู้หญิงอยู่ที่ไหนกันนะ เราจะได้เรียนรู้และปรับปรุงตัวเอง เพื่อจะมีโอกาสอีกครั้งไง ผู้หญิงเราเองนั่นแหละมักหลงลืมที่จะหว่านเสน่ห์ให้คนใกล้ตัวเพราะคิดว่าเป็นของตาย คิดผิดแล้วล่ะค่ะ...เราต่างหากที่เป็นของตายไม่ใช่เค้าหรอก

จากที่เคยถามผู้ชายส่วนใหญ่ว่าพวกเค้ามองว่าเสน่ห์ของผู้หญิงอยู่ที่ไหน พวกเค้าบอกว่าแล้วแต่ผู้ชายแต่ละคนจะคิด แต่ที่รวบรวมพอสรุปมาได้ก็ตามนี้ค่ะ

"สำหรับผลคิดว่าเสน่ห์ของผู้หญิงอยู่ที่ความเป็นตัวของตัวเอง ไม่ต้องพยายามทำให้เหมือนใคร ความเป็นธรรมชาติของผู้หญิงที่ไม่เสแสร้งนั้นดูไม่น่าเบื่อ และทำให้มีชีวิตชีวามากกว่าความสวยที่ถูกแต่งเติม"

"ผมชอบผู้หญิงที่ยิ้มเก่ง คุยสนุก รู้สึกว่าอยากอยู่ใกล้ เพราะเจอเรื่องหนักๆจากนอกบ้านมามากพอแล้ว"

"ส่วนผมชอบผู้หญิงที่รู้จักดูแลตัวเอง ไม่ปล่อยเนื้อปล่อยตัวเพราะเค้าก็จะดูแลเราได้ดีด้วย"

"ผมชอบผู้หญิงที่มีความเชื่อมั่นในตัวเอง แต่ไม่ใช่อวดเก่งนะ มีจิตใจที่หนักแน่น บางครั้งผู้ชายก็รู้สึกว่าอ่อนแอเหมือนกัน อยากมีใครให้ซบบนตักอุ่นๆ เหมือนซบตักแม่ตอนเด็กๆน่ะ"

"ผมชอบผู้หญิงที่อยู่ด้วยแล้วรู้สึกสบายใจและรู้สึกถึงความอบอุ่น มีจิตใจดี เป็นทั้งเพื่อนที่เข้าใจกัน เป็นแฟนที่คอยให้กำลังใจซึ่งกันและกัน และเป็นเหมือนแม่ที่คอยดูแลและห่วงใยกันเสมอๆน่ะ"

ฟังบรรดาเพื่อนๆผู้ชายบอกมาแล้ว เราก็คิดเหมือนกันนะ หมายถึงเราผู้หญิงก็ต้องการสิ่งเหล่านี้จากบรรดาผู้ชายเหมือนกัน ผู้หญิงกับผู้ชายก็มีความรู้สึกนึกคิดคล้ายๆกันนั่นแหละ เราต้องการแบบไหนก็ต้องเป็นผู้ให้ก่อน และต้องเป็นการให้ที่จริงใจ ไม่เสแสร้ง อยู่บนพื้นฐานจิตใจที่ดี มีความรักความห่วงใยจริงๆแล้วทุกอย่างก็จะเป็นไปแบบธรรมชาติ

ทำนายความรัก

เชื่อหรือไม่ว่าสิ่งเล็กๆในชีวิตของคุณสามารถสะท้อนให้เห็นเรื่องใหญ่ๆของคุณได้ เรามีเกมมาให้คุณเล่น เกมนี้ไม่ว่าคุณจะเป็นโสดหรือมีคู่แล้วก็เล่นได้ เพราะเป็นการทดสอบทัศนคติของคุณที่มีต่อความรัก ทำใจให้สบายแล้วเตรียมตัวเขียนคำตอบ ขอย้ำว่าซื่อสัตย์ต่อตัวเองนะ



1. คุณกำลังจะไปบ้านแฟน มีถนนไปถึงบ้านเขา 2 สาย เส้นหนึ่งเป็นถนนสายตรงที่พาคุณไปถึงในเวลาอันรวดเร็ว อีกเส้นอาจจะดูไกลกว่าแต่ระหว่างทางมีอะไรดูมากกว่า คุณจะไปทางไหน?

คำเฉลย...

ถนนนั้นแสดงให้รู้ว่าคุณมีทัศนคติต่อความรักอย่างไร ถ้าคุณเลือกถนนสายสั้นแสดงว่าคุณเป็นคนตกหลุมรักคนง่าย แต่ถ้าคุณเลือกถนนที่ไกลกว่าแสดงว่าคุณจะต้องใช้เวลากับความรัก

2. ทางที่คุณเลือกเดินมีกอกุหลาบ 2 กอ กอหนึ่งมีดอกสีแดง อีกกอมีดอกสีขาว คุณตัดสินใจจะเก็บดอกไม้ไปฝากเขาสัก 20 ดอก คุณจะเลือกดอกไม้สีอะไร อย่างละกี่ดอก หรือจะเลือกสีเดียวก็ได้?

คำเฉลย...

จำนวนดอกกุหลาบสีแดงบอกให้รู้ว่าคุณเป็นผู้ให้มากเท่าไหร่ในความสัมพันธ์ จำนวนกุหลาบขาวแสดงให้เห็นว่าคุณคาดหวังว่าจะได้กลับคืนมาเท่าไร

3. คุณไปถึงบ้านเขาแล้ว ปรากฏว่าเป็นคนอื่นที่มาเปิดประตูให้ คุณจะขอให้เขาตามแฟนของคุณ หรือเดินเข้าไปแล้วตามหาเขาเอง?

คำเฉลย...

ข้อนี้แสดงให้เห็นถึงทัศนคติของคุณที่มีต่อการจัดการปัญหาความสัมพันธ์ ถ้าคุณขอให้คนในครอบครัวไปตามเขาให้บอกให้รู้ว่าคุณชอบหลีกหนีปัญหาและหวังว่าทุกอย่างจะคลี่คลายเอง

4. คุณไปถึงห้องแล้วแต่เขาไม่อยู่ในห้อง คุณจะวางดอกไม้ไว้ที่ไหนดี ระหว่างขอบหน้าต่างหรือขอบเตียง?

คำเฉลย...

จุดที่คุณวางดอกกุหลาบไว้บอกให้รู้ว่าคุณอยากพบแฟนบ่อยแค่ไหน ถ้าวางบนเตียงแสดงว่าอยากเจอบ่อยที่สุดเท่าที่จำเป็นไปได้ วางที่ขอบหน้าต่างหมายความว่าไม่อยากเจอตลอดเวลา

5. คุณต้องค้างคืนที่บ้านแฟนโดยแยกกันนอนคนละห้อง ตอนเช้าเมื่อคุณตื่นขึ้นมาแล้วเดินไปดูเขาที่ห้อง คุณต้องการพบเขาในขณะที่เขาตื่นแล้วหรือนอนหลับอยู่?

คำเฉลย...

ข้อนี้แสดงให้ว่าทัศนคติของคุณที่มีต่อบุคลิกภาพของแฟนคุณ ถ้าคุณไปเจอเขาหลับอยู่แสดงว่าคุณรักเขาอย่างที่เขาเป็น แต่ถ้าคุณพบว่าเขาตื่นแล้วแสดงว่าคุณอยากให้เขาเปลี่ยนแปลงตัวเอง

6. ทีนี้ก็ได้เวลากลับบ้านแล้ว คุณจะเลือกเดินไปทางที่ใกล้และไม่มีอะไรให้ดู หรือยอมเดินไกลหน่อยแต่มีอะไรชวนมองกว่า?

คำเฉลย...

ถนนกลับบ้านบอกให้รู้ว่าคุณตั้งใจจะอยู่กับความสัมพันธ์นี้นานเท่าใด ถ้าคุณเลือกถนนสายที่สั้นแสดงว่าคุณรักง่ายหน่ายเร็ว ถ้าคุณเลือกเดินทางไกลแสดงว่าคุณตั้งใจจะรักอย่างนี้ตราบนานเท่านาน

6 วิธีดูแลและถนอมความรัก

กว่าที่เราจะตกลงปลงใจเป็นแฟนกัน บางคู่อาจใช้เวลาแป๊ปเดียว แต่บางคู่อาจต้องอาศัยเวลาและความอดทนสูงในการรอโอกาสดีๆ ที่คุณทั้งสองจะมีใจตรงกันสักที แล้วเมื่อความชอบริเริ่มพัฒนามาเป็นความรักแล้ว ทำยังไงที่จะถนอมรักนั้นให้ยืดยาวต่อไปล่ะ ประสบการณ์แบบนี้อาจไม่ต้องมีใครมาสอน เพราะมันเป็นสัญชาตญาณที่อยู่ในตัวมนุษย์อยู่แล้ว เพียงแต่บางทีคุณอาจจะละเลยที่จะคำนึงถึงมันไปก็ได้ เราจึงขอนำข้อแนะนำเล็กๆน้อยๆเหล่านี้มาเล่าขาน ให้คู่ที่เพิ่งรักกันใหม่ๆ หรือรักกันมานานนมแล้วได้นำไปปฏิบัติต่อการดูแลความรักของคุณให้สุขงอมต่อไป

1. นึกถึงสิ่งที่ดีๆที่เรามีให้กัน

เวลาที่โกรธกัน แน่นอนว่าคนเรารักกันอยู่ด้วยกันมากๆ ย่อมต้องมีเรื่องบาดหมางใจกันบ้าง ไม่มากก็น้อย เวลาที่ความโกรธเริ่มพลุ่งพล่านออกมานั้นแม้แต่ช้างก็ฉุดอารมณ์คุณไว้ไม่อยู่ คนที่จะระงับความโกรธได้ก็คงจะมีแต่ตัวคุณเอง ฉะนั้นถ้าเขาหรือเธอทำความผิดชนิดที่ทำให้ดีกรีความฉุดเฉียวของคุณรุนแรงมาก ขอให้คุณพยายามนึกถึงสิ่งดีๆที่เราเคยทำให้กันเอาไว้ เพื่อป้องกันไม่ให้เรื่องบานปลายไปมากกว่านี้

2. หมั่นให้เวลากันและกัน

เวลาเป้นสิ่งสำคัญสำหรับการมีความรัก แม้แต่การโทรไปคุยกับเขาหรือเธอเพียงช่วงสั้นๆแล้วป้อนคำคิดถึงให้กัน แค่นั้นก็ช่วยเติมความรักของคุณให้รื่นรมย์ขึ้นเป็นกองแล้ว

3. เวลาคุยกันก็สบตากันบ้าง

ดวงตาเป็นหน้าต่างของหัวใจ ถ้าคุณคุยกับหวานใจ แต่สายตากลับหันไปมองโน่นมองนี่ คำพูดที่คุณพูดมันคงไม่ค่อยลึกซึ้งเท่าไหร่หรอก เลิกทำตัวกล้าๆกลัวๆที่จะสบตากัน แล้วคุณจะรู้ว่าบางครั้งแค่มองตากันอย่างเดียวก็ลึกซึ้งเกินคำพูดที่เอ่ยแล้ว

4. เป็นฝ่ายง้อนงอนกันบ้าง

ไม่ว่าคุณจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย ถ้าแฟนของคุณเริ่มมีอาการงอนตุ๊บป่องขึ้นมาแล้วให้รีบง้อเขาซะ บางคนก็ง้อยาก บางคนก็ง้อง่าย แตกต่างกันขึ้นอยู่กับเรื่องที่งอนด้วย ดังนั้นถ้าคุณง้อด้วยคำพูดเท่าไหร่ก็ไม่ได้ผลซะที คราวนี้ก็คงถึงตาเรียกหาตัวช่วยบ้างแล้ว ไม่ว่าจะเป็นดอกไม้ การ์ด หรือของขวัญ ถ้าคุณมีวิธีการให้แบบที่เขาต้องประทับใจแล้วล่ะก็เชื่อว่าร้อยทั้งร้อยเลิกงอนทันทีค่ะ

5. อย่าเงียบเกิน

อย่าปล่อยให้ความเงียบเกิดขึ้นระหว่างกันเกิน 5 นาที เพราะนั่นอาจเป็นสัญญาณเล็กๆบ่งบอกถึงรักที่กำลังจืดจางของคุณ ดังนั้นพยายามเป็นฝ่ายชวนคุณ เปิดประเด็นกันบ้างเล็กน้อย ไม่ว่าจะเรื่องที่บ้าน เรื่องเรียน หรือเรื่องเพื่อน อย่างน้อยๆคุณก็สามารถระบายความรู้สึกให้กันและกันได้ แถมยังได้เรียนรู้ทัศนคติของอีกฝ่ายหนึ่งอีกต่างหาก

6. เปิดเผยตัวเองไว้แหละดี

เรื่องนี้คุณควรจะทำตั้งแต่เริ่มแรกที่คบกันจนถึงอนาคต เพื่อที่เราจะสามารถเรียนรู้และปรับนิสัยที่ต่างกันให้เข้ากันได้ ถ้าคุณมัวแต่กลัวที่จะให้เขารู้ธาตุแท้ของคุณ แล้วค่อยไปเปิดเผยทีหลังเมื่อเป็นแฟนกันแล้วนั้นมันคงไม่ดีแน่ เพราะความรักของคุณอาจต้องสะดุดกลางคันกับเรื่องไม่เป็นเรื่องที่คุณเป็นคนปิดบังมันเอง เล็กๆน้อยๆเหล่านี้เป็นสิ่งที่คุณเริ่มคบกันหรือตั้งใจที่จะคบกันต่อไป เพราะมันเป็นเรื่องพื้นฐานง่ายๆในการดำรงความรักของคุณให้หวานชื่นอบอุ่นอยู่เสมอ

สัญญาณฟันธงว่าเขาสนหรือไม่สนใจคุณ

ถ้ามารยาทชายหลายร้อยเล่มเกวียนบังตา จนคุณดูไม่ออกว่าเขาชอบคุณจริงๆหรือแค่จีบทิ้งจีบขว้าง หรือคุณต่างหากที่คิดไปฝ่ายเดียว คำตอบง่ายๆอยู่ที่ท่าทางของเขานั่นเอง

ไม่รู้ไม่ชี้ ไม่ดีไม่เอา

1. แคะหู ขยี้ตา

อาการยุกยิกเหมือนมีดีเอ็นเอลิงอยู่ในร่างกายเป็นป้ายปักปันเขตแดนที่บอกว่า "ที่นี่ห้ามชะนี (อย่างหล่อน) เข้าย่ะ" เพราะพ่อหนุ่มคนนี้เขาไม่พร้อมจะสมานฉันท์กับคุณหรอก ที่ทนคุณอยู่นี่ก็เพราะเห็นแก่ชื่อเสียงวงศ์ตระกูลและมารยาทสุภาพบุรุษเท่านั้นเอง ถ้าคุณไม่อยากอกหักขอแนะนำให้หันไปเล็งน้องชายเขาแทนจะง่ายกว่า

2. ดึงแขนเสื้อลงขณะคุณกับคุณ

สตรีบางนางชอบตีความว่า เขาทำไปเพราะอายความกำยำล่ำได้อีกของตัวเอง หรือไม่ก็คิดว่าเขาคงอยากจะแต่งหล่อ สร้างโหงวเฮ้งเจ้าชายในฝันให้คุณประทับใจ แต่ไม่ใช่ค่ะพี่น้อง การดึงแขนเสื้อเป็นอาการของคนที่กำลังอึดอัด ไม่เป็นกันเอง พูดง่ายๆว่าอยากจะชิ่งสี่คูณร้อยไปให้ไกลจากคุณนั่นล่ะ ชัดมั๊ย

3. ล้วงกระเป๋าตลอดเวลา

ถ้าเขาล้วงกระเป๋าเข้าๆออกๆในกระเป๋ากางเกง นั่นคือสัญญาณจากสวรรค์ที่ส่งมาเตือนให้คุณจงถอยทัพกลับบ้านไปรับประทานผลไม้มงคลที่ชื่อ "แห้ว" เสียเถิด เพราะมือเป็นอวัยวะที่ส่งความรู้สึกถึงตัวเจ้าของเร็วที่สุด เวลาอึดอัดหรือฝืนใจ เราจะพยายามซ่อนมือโดยอัตโนมัติ เพื่อสร้างความอุ่นใจให้ตัวเองว่าถึงตัวจะติดแหง็กอยู่ตรงนี้ แต่อย่างน้อยมือเราก็ได้หลบไปอยู่ในที่ชอบๆแล้วกัน

4. กระฟัดกระเฟียดหงุดหงิด

อาการหงุดหงิดจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อคนเราต้องหายใจอยู่ใกล้ๆสิ่งที่เราไม่ชอบ ถ้าเขาออกอาการหงุดหงิด หน้าบึ้ง กระแทกของปึงปัง เวลาคุณโผล่หน้าสวยด้วยโบท็อกซ์เข้าไปให้เห็น แสดงว่าถึงเวลาที่คุณต้องพิจารณาตัวเองแล้วล่ะว่าไปทำอะไรให้ผู้ชายคนนี้เจ็บแค้นเคืองโกรธ อยากจะจับไปขังลืมบนเกาะส่วนตัวบ้างหรือเปล่า

5. ปากกับตัวไม่สามัคคี

กิริยานี้เป็นวิธีไล่แขกทางอ้อมที่คนเหม็นขี้หน้ากันเท่านั้นที่ทำได้ ด้วยการคุยกับคุณแต่มองทางอื่น หรือในกรณีที่เหม็นขี้หน้าระดับฮาร์ดคอร์ อาจจะมีการหันข้างใส่ซึ่งหน้าถ้ามีผู้ชายคนไหนทำกับคุณแบบนี้ สาวแซ่บไม่ควรอยู่ให้เสียเกียรติภูมิความเผ็ดของเราค่ะ สะบัดบ๊อบเท่านั้นคือคำตอบสุดท้ายที่คุณคู่ควร


สนใจใช่เลย

1. ใกล้ตัวใกล้ใจ

ผู้ชายเป็นเพศที่ไม่หวงเนื้อหวงตัว ชอบบริจาคร่างกายให้สาวๆเชยชมอยู่แล้ว ฉะนั้นถ้าเขาอยากจะสมัครเป็นแฟนของผู้หญิงคนไหน พี่แกจะพยายามกระชับพื้นที่ให้มากที่สุด เช่น คุยกันปกติไม่ได้ ต้องกระแซะเข้ามาฟังในระยะเผาขน หรือเดินอยู่ดีๆก็ดันเอาแขนมาเบียดไหล่คุณซะงั้น สังเกตง่ายๆว่าเจ้าอนาคอนด้าบนหัวเขาพยายามแผ่พังพานเลื้อนมาทางคุณนั้นล่ะคือสัญญาณความชอบบทที่หนึ่ง

2. ไม่มองแต่แอบเล็ง

ถ้าเขาอายุไม่เกิน 20 หรือจัดอยู่ในสายพันธุ์ผู้ชายขี้เก๊ก มาดเยอะ คุณอาจพบว่าเขาจะไม่มองมาเลย เวลาคุณเข้าไปใกล้ๆแต่เวลาคุณเผลอตัวอยู่ในอิริยาบถสบายๆพี่ท่านจะแอบมองแบบตอดเล็กตอดน้อยทุก 5 นาที ลองเช็คดูนะถ้าพี่แกไม่ได้รับจ๊อบเป็น รปภ.คอยส่องหาวัตถุระเบิดอยู่แถวนั้น ก็ฟันธงได้ว่าเขากำลังแอบชอบคุณแน่ๆ

3. ลูบเสยปัดเกา

ทั้งลูบผม เสยหน้ากาก แต่งท้าทอย หรืออะไรใดอื่นทุกสิ่งอย่างที่เกี่ยวกับผม เป็นเทคนิคแต่งหล่อของผู้ชายทั้งนั้น และเขาจะทำก็ต่อเมื่อกำลังอยู่ต่อหน้าคนที่เขาสนใจ อยากให้เธอเห็นเขาในสารรูปไปวัดไปวาตอนสายๆได้ แบบว่าถึงไม่หล่อพี่ขอเท่ก็ยังดีจ๊ะ

4. ทำเสียงดังเรียกความสนใจ

วิธีนี้ค่อนข้างออกแนวมั่วสุมของมอเตอร์ไซต์รับจ้างไปหน่อย แต่ผู้ชายบางคนก็ทำจริงๆ สังเกตได้ว่าเวลาคุณเจอตาคนนี้จะมีเสียงดังปึงปัง ทำของตก ตบโต๊ะ ตะโกน กระแอม ผิวปาก และอื่นๆ อีกมากมายที่รบกวนความสงบของชาวบ้าน จนทุกคน (รวมถึงคุณ) ต้องหันไปมอง นั่นล่ะคือวิธีที่บอกว่าเขาปิ๊งคุณเข้าแล้ว

วันจันทร์ที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2553

10 ข้อเสียเปรียบในเรื่องความรักที่ผู้หญิงควรตระหนัก

ขึ้นชื่อว่า "ความรัก" แม้เป็นความรู้สึกและอารมณ์ที่เท่าเทียมกันระหว่างชายและหญิง แต่ด้วยรูปแบบการใช้ชีวิตและองค์ประกอบที่แตกต่างระหว่างสองเพศนี้ ความรักแม้สร้างความรู้สึกดีๆให้แก่คนถูกรัก แต่มันกลับซ่อนความเสียเปรียบให้แก่เพศที่อ่อนแอกว่าอย่างผู้หญิงเราอยู่ไม่น้อยเลยล่ะ

1. ผู้ชายยังดูเป็น "คนดี"เสมอ แม้จะผ่านมาหลายความรักแล้วก็ตาม

ถือเป็นความไม่เท่าเทียมกันระหว่างเพศที่เห็นได้ชัดว่าในแง่ของความรัก ผู้ชายมักไม่ได้รับพิจารณาความรักเดิมของเขาว่าโสดหรือไม่ โสดอย่างไร หรือจะเคยแต่งงาน หย่าขาดความรักเก่ามาแล้วกี่ครั้ง ผู้ชายก็ดูไม่ต่างพร้อยด้วย ค่าของความรักเหมือนผู้หญิง แต่สำหรับผู้หญิงที่ผ่านสมรภูมิความรักมาอย่างสะบักสะบอมแบบโดนทิ้ง โดนขออย่า มีแผลความรักมาพรุนกาย เธอคนนั้นก็จะกลายเป็นผู้หญิงชั้นสอง

2. ผู้ชายมักทำตัวโสดเมื่อสบโอกาส

อย่างที่เพลงลูกทุ่งว่าไว้ว่า "ถ้าเมียไม่มาก็เพราะว่าเมียไม่มี" ผู้ชายมักฉวยโอกาสเวลาที่เราไม่อยู่ ทำตัวเป็นชายโสดและโฉดต่อความรัก หากผู้หญิงเราไม่ตามติดไปพัวพันกายของเขาเพื่อประกาศตัวว่า "ผู้ชายคนนี้มีเจ้าของแล้ว"เขาก็จะจู้ฮุก กรูร่าเริงกับผู้หญิงคนอื่น ประหนึ่งว่าปลอดซึ่งภาวะและพันธะความรัก ยิ่งอยู่นอกสายตาคนรัก ยิ่งจะลืมตัวและทำตัวเหมือนว่า "โสดได้เสมอเมื่อข้าต้องการ"

3. ผู้หญิงปรนนิบัติความรักเยี่ยง "คนใช้"

แต่ด้วยธรรมชาติความเป็นชายแล้วพวกเขาทำเรื่องง่ายๆอย่างการบ้านงานเรือนให้เป็นเรื่องยาก และก็จะทำตัวมีปัญหาหากเขาต้องลงมือจับไม้กวาดถือไม้ถูพื้นด้วยตัวเอง ท่าที่เหมือนจะขจัดความสกปรก แต่สภาพภายหลังการปัดกวาดเช็ดถูมันก็ไม่เห็นสะอาดขึ้นตรงไหน แถมจะดูสกปรกมากขึ้นด้วยซ้ำและเพื่อให้สภาพของที่อยู่อาศัยของเขาอยู่ในสภาพที่เป้นปกติสุขที่สุด ผู้หญิงเราจึงอดไม่ได้ที่จะยอมเป็น"แจ๋ว" ประจำตัวของเขา

4. ผุ้ชายมักไม่ค่อยสนใจรายละเอียดความรู้สึกของผู้หญิงเรา

ถ้าผู้ชายทำท่าเริ่มเงียบแถมดูอาการเครียด ผุ้หญิงเราก็สามารถรับรู้ได้โดยอัตโนมัติว่าคงมีเหตุอันไม่ปกติเกิดขึ้นกับเขาแน่นอน โดยเฉพาะสาเหตุที่ทำให้เขาเริ่มหงุดหงิดนั้นเกิดจากเรา เขาก็จะแสดงอาการปั้นปึ่ง หน้าปึ้งใส่เราจนเราอยู่ไม่เป็นสุข และต้องรีบงอนง้อเขาแต่โดยไว ตรงกันข้ามกับความรู้สึกผิดปกติที่ขึ้นกับเราถึงเราจะปั้นหน้าไม่รับแขก เงียบ นิ่ง หรือแทบจะเก็บอาการวีนไม่อยู่แล้ว ไม่รู้ว่าพวกผู้ชายเขาไม่รู้หรือรู้แต่ทำเป็นไม่รู้กันแน่ พวกเขายังดูมองข้ามความรู้สึกอันไม่ปกติที่เราตะบึงตะบอนใส่เขา แต่เขาทำเฉยและคิดเองเออเออเองว่าอาจจะเป็นช่วงวันนั้นของเดือนของเราเองก็ได้ค่ะ

5. ภาพผู้หญิงจะติดลบหากผู้หญิงเราเป็นฝ่ายจีบผู้ชายก่อน

เพราะความรู้สึกของคนภายนอกมันรู้สึกเหมือนกับว่า ความรักจะเข้าท่าก็ต่อเมื่อผู้ชายเป็นฝ่ายเริ่มสนใจและเป็นฝ่ายเริ่มเข้ามายุ่มย่ามขอปันความรู้สึกพิเศษเพื่อเป็นคนพิเศษของเรา แต่สิ่งที่เป็นอยู่ในปัจจุบันมันกลับตรงกันข้ามเพราะหากเราจะรอให้ผู้ชายเป็นฝ่ายเดินตรงเข้ามาหาเราก่อน เราก็คงต้องรออย่างแห้งเหี่ยวเดียวดายอย่างนั้นไปเถอะ ผู้หญิงปัจจุบันจึงไม่ค่อยอายจากการออกล่าความรักด้วยตัวเอง ซึ่งในสายตาของผู้หลักผู้ใหญ่หัวเก่าหรือผุ้ชายบางคนเองจะมองผู้หญิงเราว่า "โหยหา และ want ความรัก"จนเกินงามเจ้าค่ะ

6. ผู้ชายสัมผัสกายผู้หญิง..ผู้หญิงเสีย ผู้หญิงสัมผัสกายผู้ชาย..ผู้หญิงก็เสียอยู่ดี

ไม่ว่าจะเป็นกรณีใดๆ หากอวัยวะของบุรุษมาต้อง มาถูก มาสัมผัส มาเสียดสีผิวกายไม่ว่าจะตรงส่วนใดของเรา โดยถ้าอวัยวะนั้นเป็นอวัยวะสุดสงวนแบบจมูกของเขาขยี้สัมผัสลงบนแก้มของเรา หรือมือของเขามาปาดโดนที่บั้นท้ายของเราเข้า กรณีแบบนี้มันทำให้ผู้หญิงเราเสื่อมเสีย เพราะคนอื่นจะคิดว่าอะไรจะ "ง่ายดาย"ปานนั้น หรือแม้ว่าเราหาได้เป็นฝ่ายเริ่มไม่ แต่ด้วยท่าทีของเรากลับยินยอมไม่ปฏิเสธหรือไม่แสดงอาการขัดขืน กรณีเช่นนี้คนที่พบคนที่เห็นเข้าก็จะหาว่าเราเป็นหญิงที่ไม่รักนวลสงวนตัวและก็สมยอมให้ชายกระทำชำเราเอง กระนั้นเมื่อภาพที่คนอื่นได้เห็นมันปรากฏว่าเราเป็นฝ่ายถึงเนื้อถูกตัวชายก่อน สิ่งที่ตามมาติดๆก็คือ ผู้คนที่เห็นก็จะพากันแดกดันหาว่าเราเป็นผู้หญิงกระหายชาย มือไวใจเร็วยิ่งกว่าผุ้ชายทั้งแท่งเสียอีก ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นกรณีใดผู้หญิงก็มีแต่เสียกับเสียอยู่ดีค่ะ

7. ผู้ชายเจ้าชู้คือผู้ชายมีเสน่ห์ แต่ผู้หญิงเจ้าชู้คือผู้หญิงหลายใจ

เป็นมุมมองความคิดที่ไม่รู้ว่าผู้ชายพากันคิดไปเองหรือเปล่าไม่รู้ แต่ความเป็นจริงก็คือผู้หญิงเองก็ปราบปลื้มกับอาการเจ้าชู้ของผู้ชาย เพราะผู้ชายเจ้าชู้ดูมีอะไรมากกว่าผุ้ชายไม่เจ้าชู้ ไม่ว่าจะเป็นแววตา ท่าทาง ความหล่อ หรือความทะเล้นขี้เล่นของเขา เมื่อมารวมกันแล้วมันคือเสน่ห์ที่ทำให้ผู้หญิงตราตรึงกับคุณสมบัติความเจ้าชู้ ทั้งที่จริงๆแล้วน่าจะเป็นพิษภัยต่อความรักของเรามากกว่า แต่ก็ดูเหมือนว่าผู้หญิงเราจะไม่เกรงกลัวความวุ่นวายที่อาจจะเกิดขึ้นจากความเจ้าชู้ของชาย เป็นเหตุตรงกันข้ามหากผู้หญิงเราหัดเจ้าชู้บ้าง สิ่งที่ผู้ชายและผู้หญิงด้วยกันจะพากันโจษจันก็คือคำถามว่ารักเดียวไม่พอหรือไงที่ชอบทำตัวปั่นหัวใจผู้ชายให้กระเจิง และชอบที่จะอยู่ในวงล้อมความรักของผู้ชายทีละหลายๆคน ยิ่งหากมาทำตัวเจ้าชู้กับแฟนชาวบ้านล่ะก็ เธอคนนั้นก็จะโดนประณามสาปแช่ง หรือถึงขั้นโดนราวีไม่เลิกจากผู้หญิงที่เดือดร้อนจากพฤติกรรมและพฤติกามเจ้าชู้ของเธอแน่ ที่สำคัญก็คือผู้ชายส่วนใหญ่อาจจะชอบลองชอบเล่นกับความท้าทายของผุ้หญิงเจ้าชู้ แต่ก็จะไม่ยอมลงหลักปักฐานความรักกับผู้หญิงหลายใจและเปลี่ยนรักบ่อยนักหรอก เพระาพวกเขายังปรารถนาที่จะมีความรักกับผู้หญิงรักจริงและรักเดียว ผู้ที่เชื่อและศรัทธาในความรักของเขาคนเดียวมากกว่าค่ะ

8. ผู้ชายมีพละกำลังมากกว่าผู้หญิงอย่างเห็นได้ชัด

ตรงนี้ถือเป็นข้อเสียเปรียบอย่างเห็นๆยกเว้นเราจะได้คนรักเป็นสุภาพบุรุษที่ไม่คิดเอาความได้เปรียบตรงนี้ เข้าตักตวงความได้เปรียบจากความรัก ต่อให้ผู้ชายมีขนาดตัวที่เล็กกว่าผู้หญิงก็ตาม แต่ด้วยสรีระความบึกบึนอันกำยำสุดๆของมนุษย์เพศชาย ผุ้ชายก็มีได้อย่างไม่ยากเย็น ยิ่งหากพวกเขาคิดเอากำลังเข้าบีบบังคับเพื่อพิชิตกายของเราด้วยแล้ว ต่อให้เราดิ้น เราสู้ หรือเราพยายามขัดขืนอย่างไรบอกได้เลยว่าน้อยรายที่จะรอด แต่ทั้งนี้ก็ยังไม่น่าหวาดผวาเท่ากับการที่ลูกผู้ชายที่ไม่รักการเป็นสุภาพบุรุษบางคน ชอบใช้กำลังเข้าควบคุมความรักและพฤติกรรมดื้อๆของผู้หญิงเราด้วยการป้อนเข่าป้อนแข้งให้ทานทุกวัน ความรักจึงนำมาซึ่งความเจ็บปวดกายด้วยประการฉะนี้ชีวิตรักจึงเข้าข่ายความรักระหว่างนักมวยกับกระสอบทราย ที่มีคติความรักว่า "เพราะรักมากจึงต้องซ้อมมาก"ไงคะ

9. ผู้หญิงมีเวลาหมดอายุสำหรับความรัก

ผู้หญิงเราจะรู้สึกป๊อปเอามากๆกับการเข้ามาของความรัก ก็จะเป็นช่วงเริ่มต้นของวัยรุ่นและเมื่อยิ่งเราโตเป็นสาวสะพรั่งก็จะเป็นช่วงพีคความงามที่ได้ดึงดูดความเป็นชายจากทั่วสารทิศให้เข้ามาแสดงเจตนาของความรัก แต่แล้วด้วยการงาน การเรียน และภาระหน้าที่อื่นๆก็ทำให้เรามุแต่งาน มุแต่เรียน และการปฏิเสธความรักไปจนวัยล่วงเลยผ่านเข้าไปสู่วัยเกลือบกลางคน ซึ่งถือเป็นโอกาสสุดท้ายและท้ายสุดที่ตัวเองจะค้นคว้าหาความรักแท้ แถมเค้าความงามก็ไม่สดไม่สวย ริ้วรอยความร่วงโรยแห่งวัยเข้ามาเยือน ถ้าเป็นการแสดงก็จากบทนางเองกลับกลายไปเล่นเป็นบท "น้องเเม่นางเอก" เพราะถ้าอายุเขยิบขึ้นเลข 4 เมือ่ไหร่ก็โดนยัดเยียดบทเเม่ให้ซึ่งนั่นหมายความว่า ไม่มีโอกาสเจอความรักครั้งใหม่เเล้ว เพราะสีหน้าพร้อมหย่อนยานมันจะประจานบอกผู้ชายว่า"หน้าจะมีลูกมีเต้า"เเล้ว

10. ผู้หญิงต้องเป็นฝ่ายตั้งครรภ์

การตั้งครรภ์ถือเป็นหน้าที่โดยธรรมชาติของสรรพสิ่งเกือบทุกชีวิตบนโลก เเละกระบวนการสืบพันธุ์อันหน้ามหัศจรรย์ของมนุษย์ก็จะมอบผลผลิตความรักมาเติมความรัก เเละมอบหน้าที่ความเป็นพ่อเป็นเเม่ให้เเก่ผู้รับ เพือ่ความสมบูรณ์เเบบให้กับชีวิตครอบครัว เเต่บางครั้งมันก็ไม่เป็นตามรูปเเบบที่ว่ามาเสมอไป เพราะมนุษย์เรายังติดอยู่กับตัณหาความใคร่หรือกระบวนการเเสดงความรักระหว่างมนุษย์ทั้งสองเพศกลับถูกบิดเบียนไปด้วยอารมณ์ทางเพศเเละรูปรสกลิ่นเสียงอันชวนหลงใหล โดยเฉพาะเซ็กซ์ที่เกิดจากอารมณ์ชั่ววูบเเละขาดการป้องกัน ฝ่ายชายผู้มีหน้าที่ผลิตเชื้ออสุจิก็ทำหน้าที่เเค่เป็นผู้ผลิตเเละทั้งของเหลวนั้นในกาย ผู้หญิงเรา โดยไม่คิดจะรับผิดชอบกับความคิดชั่ววูบที่จะก่อตัวเป็นอีกหนึ่งชีวิตขึ้นในอีกเก้าเดือนภายหลัง ที่ย่ำเเย่กว่านั้นก็คือผู้หญิงโชคร้ายหลาย ๆ คนเกิดเป็นเหยื่ออารมณ์ชายอย่างไม่เต็มใจ เเล้วเกิดการตั้งครรภ์ขึ้นมา นี่ซิที่จะต้องระทมไปทั้งชีวิต

วันอาทิตย์ที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2553

HoW To ทำตัวอย่างไรดี เมื่อแอบรักคนมีเจ้าของ

แอบรักเขาข้างเดียวก็เศร้าแล้ว แตยังไม่เศร้าเท่ากับคนที่เรารักบังเอิญมีหวานใจอยู่แล้ว ถ้าเกิดสถานการณ์อย่างนี้ สาวแซบอย่างเราควรทำตัวแบบไหนดี

1. รักหรือแค่หลง
เวลาทำหัวใจหล่นใส่แฟนชาวบ้าน ก่อนที่จะเริ่มพลิกตำรานางมารหารวิธีหารสองแบ่งแฟนชาวบ้านมาไว้ในครอบครอง คุณควรจะถามตัวเองก่อนว่าความรู้สึกที่กำลังเต้นแทงโก้อยู่ในใจเราเนี่ย มันคือความรักหรือเปล่า หรือเป็นแค่อารมณ์ปิ๊งปั๊งเพราะเจอรังสีบุรุษรูปงานเข้าไป ถ้าหาคำตอบได้ว่ามันไม่ใช่ความรัก สาวแซบก็จะได้หยุดตัวเองได้ทันก่อนที่จะถลำใจไปมากกว่านั้น

2. มองหาข้อเสีย
นี่เป็นวิธีคลาสสิคอันดับต้นๆ สำหรับคนที่คิดจะตัดใจจากคนรักทุกคน เวลาอยากจะเลิกรักใครอย่ามองหาข้อดีของคนๆนั้น แต่ให้มองหานิสัยห่วยๆของเขาแทน เช่นว่า พี่แกเกลียดเด็ก ในอดีตเคยเตะเด็กขายพวงมาลัยกระเด็นไปหลายสี่แยกแล้ว แถมยังขี้เหนียวให้เงินขอทานแต่ละครั้งต้องมีทอน บางทีก็ทอนเกินก็มี เอากะแกสิ อย่างนี้เป็นต้น หลังจากนั่งคิกนอนคิดหาข้อเสียของผู้ชายคนนั้นแล้ว บางทีคุณอาจจะสงสัยตัวเองก็ได้ว่านี่เราหลงรักไอ้หมอนี่เข้าไปได้อย่างไร ข้อเสียเพียบแทบจะทิ่มตาซะขนาดนั้น

3. ยอมรับความจริง
คนเราเวลาหลงรักก็มักจะหลงตัวเองว่าเขาคงจะมีใจให้เราบ้างหรอกน่า ไม่งั้นคงไม่มาสนิทจี๊ดจ๊าดกับเรา หรือเขาพูดอะไรมาก็เก็บเอามาคิดเข้าข้างตัวเองว่าเขาอาจจะแฝงความนัยอะไรเป็นพิเศษรึเปล่านะ ไม่ว่าเขาจะทำอะไร ที่ไหน เมื่อไร อย่างไร ก็พยายามแปลความหมายว่าไอเลิฟยูไปหมด เพราะใจเราน่ะ อยากให้มันเป็นอย่างนั้นอยู่แล้ว จนกลายเป็นคนเพ้อเจ้อ หน้ามืดตามัวคิดฝันอย่างนั้นอยู่แล้ว แล้วก็เลยถลำตัวรักเขามากไปกว่าเดิม กว่าจะนึกได้ว่าเราควรจะตัดใจก็วันที่เขาเข็นเมียเข้าห้องคลอดนั่นแหละ สาวๆที่เจอสถานการณ์นี้จึงต้องควบคุมสติและสตางค์ให้ดีเป็นพิเศษ อย่ามองโลกในแง่ดีคิดอะไรเข้าข้างตัวเองไปหมด ต้องอยู่กับความเป็นจริงให้ได้ว่าที่เขาชมเราว่าทำงานเก่งฏ็หมายความว่าเราทำงานเก่ง ไม่ใช่เราทำงานเก่งจนเขาอยากเอาเป็นแฟน เข้าใจมั๊ย?

4. ตีตัวออกห่าง
เมื่อเสียหัวใจให้เขาไปแล้ว คุณก็ยิ่งไม่ควรจะเข้าไปคลุกวงในให้เรื่องมันบานปลาย เพราะถ้าเข้าไปจิ๊จ๊ะกับคนที่แอบรักบ่อยๆเข้า คุณอาจจะเผลอแสดงออกให้เขารู้เข้าสักวันว่าคุณอยากจะกินเขามากแค่ไหน ซึ่งมันก็จะทำให้เขาและแฟนของเขาลำบากใจ แล้วคุณนั่นเองที่จะน้ำตาเช็ดหัวเข่า สาวแซบจึงควรเป็นฝ่ายตีตัวออกห่างซะเอง จนกว่าจะบรรลุหนทางแห่งปัญหา ตัดใจจากเขาได้สำเร็จ

5. หาผู้ช่วยนางเอก
ในสถานการณ์ลำเค็ญอย่างนี้ ถ้าได้ระบายความในใจกับใครซักคนที่ไว้ใจได้ก็จะช่วยให้คุณสบายใจขึ้น แต่สาวแซบควรจะเลือกตัวช่วยที่คุณธรรมล้ำเลิศธรรมะธัมโมหน่อย จะได้ไม่ยุให้คุณลุกขึ้นมาแต่งเปรี้ยวเดินยั่วแฟนชาวบ้าน หรือหาหนทางไปบ่อนทำลายนิยายรักของเขาแล้วเอาตัวเข้าเสียบ ตัวช่วยคนนี้ควรเป็นคนที่หวังดีกับคุณ อยากเห็นคุณเจริญก้าวหน้าสู่ที่ชอบๆอย่างสง่าผ่าเผย ไม่ใช่ชวนกันทำตัวตกต่ำให้ชีวิตมันย่ำแย่กว่าเดิม

6. รักก็บอกว่ารัก
ถ้าคุณพยายามตัดใจแล้วแต่ไม่สำเร็จสักที บางทีการได้บอกรักคนที่คุณแอบรัก อาจจะเป็นทางออกที่เวิร์คก็ได้ เพราะมันเท่ากับว่าคุณได้บรรลุเป้าหมายแห่งชีวิตไปแล้ว ได้บอกสิ่งที่อยู่ในใจให้คนที่คุณรักรู้แล้ว จากนั้นก็จะได้ถึงเวลาเริ่มต้นชีวิตใหม่ได้เสียที แต่ก่อนที่สาวแซบจะลงมือปฏิบัติการขั้นเด็ดขาดคุณต้องเคลียร์กับตัวเองเสียก่อนว่าหลังจากที่สารภาพรักไปแล้ว คุณจะไม่ยื้อหรือแอบหวังว่าเขาจะหันมารักคุณ การบอกรักครั้งนี้ต้องเป็นการบอกลาจริงๆนะ ถ้าทำใจได้ตามนี้แล้วก็ลุยไปเลย แต่ถ้ายังทำไม่ได้ก็อย่าเพิ่งรุกฆาต เดี๋ยวหนุ่มจะหัวใจวายซะเปล่าๆ

7. หาแฟนเป็นของตัวเอง
วิธีนี้อาจดูเหมือนเห็นแก่ตัวและไม่ยุติธรรมกับคนที่คุณเรียกว่าแฟนไปซะหน่อย แต่มันจะดีในแง่ที่ว่า การมีแฟนจะทำให้คุณรู้สึกมีคุณค่าขึ้น ไม่ต้องไปจมกับอารมณ์อกหักเดิมๆ และการมีคนมาทำดีด้วย ถ้าคุณไม่ถูกวิญญาณตอไม้เข้าสิงขั้นรุงแรง คุณก็คงต้องรู้สึกดีกับคนที่มาเอาใจคุณบ้างล่ะน่า และนานๆไปคุณก็จะตัดใจจากคนที่คุณแอบรัก แล้วกระชากหัวใจคืนมาเพื่อมามอบให้แฟนคุณได้เอง แต่ก่อนจะถึงเวลานั้นอย่าให้เขารู้แล้วกันว่าหัวใจคุณไปหล่นอยู่ที่ใคร เราเตือนคุณแล้วนะ!

8. ทำตัวยุ่งเข้าไว้
ยิ่งมีเวลาว่างคุณก็จะยิ่งคิดฟุ้งซ่าน สาวแซบจึงควรจะหาอะไรทำเพื่อทุ่มความสนใจของคุณไปเรื่องอื่น เช่น อาจจะเล่นกีฬา แต่ยังมีเรื่องอื่นให้ทำอีกตั้งเยอะ อกหักแค่นี้ฉุดความเปรี้ยวอย่างคนแซบอย่างเราไม่ได้หรอก...

วันอังคารที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2553

20 how to Do When You have Love ฮาวทูที่คุณต้องรู้ ณ เวลาที่คุณมีความรัก

เมื่อในวังวนชีวิตประจำวันของคุณ มีบุรุษเเปลกหน้าเเต่ไม่หน้าเเปลกเข้ามาพัวพัน เเละคุณก็เรียกมันว่า"ความรัก" ซึ่งถือว่าเป็นพฤติกรรมทางธรรมชาติที่ยิ่งใหญ่ของมนุษย์ผู้มีหัวใจ คุณจึงจำเป็นต้องรู้จักทำอะไรเพิ่มเติมเพื่อหล่อเลี้ยงเเละเสียสละเเด่ความรัก

1. How to take care of love รู้วิธีดูเเลความรัก

เหมือนกับสิ่งของถ้าคุณได้มันมาด้วยความยากลำบาก แต่คุณกลับไม่รักษามันไว้ให้ดี สักวันคุณอาจต้องเสียใจเพราะถูกคนอื่นขโมยความรักเอาได้นะ

2. How to speak love language รู้วิธีพูดภาษาความรัก

ถึงแม้คุณจะมีความสามารถพูดได้หลายภาษา แต่ถ้าคุณไม่เข้าใจภาษาที่สื่อความรู้สึกของเขามาสู่ความรู้สึกของคุณแล้วละก็ มันก็เหมือนว่าคุณกับเขาพูดคนละภาษา แม้ฟังดูจะเป็นภาษาไทยเหมือนกันก็ตาม

3. How to say "I love u" รู้วิธีกล่าวคำว่า"ฉันรักคุณ"

ทุ่มเทแรงกายแรงใจถวายชีวิตให้กับความรักแต่ไม่เคยปริปากบอกเขาว่า "รัก" สักคำ ระวังว่าเขาจะไม่เคลียร์ คิดไม่ได้ว่า "คุณรักเขา" แม้ไม่กล้าบอกกับปาก เขียนใส่กระดาษบอกเขาเป็นตัวอักษรก็โอเคนะค่ะ

4. How to share happyness รู้วิธีร่วมแชร์ความสุข

เมื่อชีวิตของคนสองคนติดหนึบหนับกันเป็นตังเม คุณเองอาจจำเป็นต้องคิดเผื่อเขาด้วย อย่าเอาแต่โฟกัสความต้องการและความสุขของตัวเท่านั้น มองความต้องการของเขาแล้วปรับวิถีความสุขของตนเอง จะได้สุขกันทั้งสองฝ่ายกันไงหละคะ

5. How to stay loyal รู้วิธีซื่อสัตย์กับความรัก

เลิกเลยค่ะเลิกคิดมีกิ๊กเถลไถลเหมือนแต่ก่อนเลยน่ะค่ะ เพราะถ้าอย่างนั้น รักของคุณจะเต็มไปด้วยความระเเวงอันไม่เป็นสุขจากเขา แบบเวลาเจอหน้ากันแทนที่จะคุยกันและใช้เวลาด้วยกันอย่าง "happy" เขาก็จะกลายเป็นตำรวจตรวจความรัก สืบสวนสอบสวนพฤติกรรมพิษรักไม่ซื่อของคุณไง ซึ่งก่อให้เกิดการทะเลาะและเสียอารมณ์กันเปล่าๆ

6. How to get romantic รู้จักมีวิธีสร้างความโรเเมนติก

อย่าคิดว่าการสร้างบรรยากาศโรเเมนติกเป็นหน้าที่ของผู้ชายแต่เพียงฝ่ายเดียว เพราะคุณเองก็สามารถบันดาลอารมณ์และบรรยากาศความรักให้โรแมนติกเพื่อเซอร์ไพร์เขาได้ เพียงแค่สาวขี้เล่นอย่างคุณรู้วิธีที่จะออเซาะออดอ้อนให้เขาจั๊กจี้หัวใจ ก็สามารถสปาร์คความโรแมนติกขึ้นมาได้

7. How to get jealous wisely รู้วิธีหึงอย่างฉลาด

หลายคนอาจเถียงว่าพอถึงเวลาหึงขึ้นมาจริงๆเป็นใครก็ต้องฟาดหัวฟาดหางอาละวาดเป็นที่แน่ๆแต่คุณขา....ภาพลักษณ์วีนๆแบบนั้น พอเสียทีเถอะค่ะ เพราะมันทำให้คุณตกเป็นรองในเรื่องของความได้เปรียบเสียเปรียบ ทั้งนี้การหึงเเบบหน้ามืดตามัวมันยิ่งทำให้เขาได้ใจว่า คุณได้ตกเป็นลูกไก่พิการในกำมือของเขาเสียแล้ว ดังนั้นคุณจึงควรหึงอย่างฉลาดและมีสติด้วย

8. How cook รู้วิธีทำอาหาร

สมัยนี้คุณสมบัติในเรื่องเสน่ห์ปลายจวักอาจไม่สำคัญเท่าสมัยก่อน แต่ผู้ชายก็ยังฝากปากและท้องกับเราอยู่ดี คุณอาจไม่จำเป็นต้องปรุงอาหารได้ชนิดอร่อยเหาะ แต่ขอให้คุณรู้ว่าที่ไหนมีของอร่อยถูกลิ้นเขา และไปซื้อมาอุ่นใส่จานอุ่นใส่จานเสริฟเขา แค่นี้เขาก็รักคุณตายแล้ว

9. How to do house keeping รู้วิธีทำงานบ้าน

พวกผู้ชายมักมีชีวิตยุ่งเหยิง เรื่องงานบ้านหรอถ้าไม่มีแขกมาเยี่ยมบ้านแล้วละก็ ไม่มีทางทำหรอกหรือถ้าทำทีหนึ่งก็จะทำแบบลวกๆ หมกไอนี่ตรงนี้หมักไอนั้นตรงโน้นแบบผักชีโรยหน้า ขอไปที ในฐานะที่คุณเป็นคนรัก หากคุณใจดีช่วยเขาจัดระเบียบชีวิตให้เรียบร้อย เชื่อว่าเขาคงประทับใจเเละอยากให้คุณทำหน้าที่นี้ไปตลอดชีวิตเลยหละ

10. How to tie/untie a necktie รู้วิธีผูกไทและแก้ไท

แม้เนคไทจะไม่ได้เป็นชิ้นส่วนเสื้อผ้าชิ้นใดชิ้นหนึ่งของผู้หญิงเรา แต่ขอบอกว่าทักษะการผูกและการแก้เนคไทเป็นอะไรที่ส่งเสริมสายสัมพันธ์รักของคุณอย่างเซ็กซี่เอามากๆ การผูกเน็คไทให้เขาทุกๆเช้าจะเปิดโอกาสให้คุณและเขาสู่มอร์นิ่งทอล์ค และแล้วเขาคงจะต้องขอบคุณคุณด้วยมอร์นิ่งคิสส์แน่ๆเลย เช่นเดียวกับเวลาที่เขากลับบ้านตอนเย็น การแก้เน็คไทออกจากคออาจเป็นชนวนจุดอารมณ์คุณและเขาสู่การแก้ชิ้นส่วนอื่นๆที่มากกว่าเน็คไทออกจากร่างกายของเขาด้วย

11. How to present love รู้วิธีการนำเสนอความรัก

คุณคงคิดว่าการโปรโมทความรักนั้นเป็นเรื่องของเซเล็บ นั่นถือเป็นความคิดที่ผิดถนัดเลยค่ะ เพราะทุกๆความรักต่างมีบุคคลทั้งทางสายเลือดและสายสัมพันธ์ของคุณ และเขาจะต้องแนะนำและประกาศให้รับรู้ว่าเราทั้งคู่รักกันอยู่นะ แต่คงไม่มีการนำเสนอความรักครั้งไหนที่ยากและหินเท่าครั้งที่คุณจูงมือเข้าบ้านเป็นครั้งแรกหรอกค่ะ

12. How to prove his love รู้วิธีพิสูจน์ความรักของเขา

ถึงต่อให้เขาพร่ำพรอดว่า"รักคุณเพียงใด" ก็อดไม่ได้ที่เราจะเคลือบแคลงสงสัยในประวิติความเป็นมาและพฤติกรรมความรักของเขา แน่นอนเรารู้ว่าคุณมีวิธีพิสูจน์เขา ไม่ว่าจะเป็นบทสำออย บทงอนหรือจะเป็นบทเศร้าเคล้าน้ำตา อย่างไรก็อย่าให้มันรุนแรงนัก จนดูเหมือนว่าคุณไม่เคยเชื่อใจและศรัทธาในความรักของเขาเลย ผู้ชายเขาก็น้อยใจเป็นนะ....จะบอกให้

13. How to say"No" to other guys รู้วิธีปฏิเสธผู้ชายคนอื่น

เพราะคุณมีเขาเป็นตัวเป็นตน และคุณก็ทราบดีว่าความรักเป็นเรื่องที่ต้องชัดเจนในเรื่องทิศทางความสัมพันธ์ หากคุณยังใจดีเกรงใจให้ผู้ชายคนอื่นมาพัวพรรณในชีวิตคุณอยู่ร่ำไป เราก็เกรงว่ารักของคุณอาจเกิดปัญหาด้วยเพราะอารมณ์หึงหวงก็ได้

14. How to deal with his temper รู้วิธีจัดการกับอารมณ์เสียๆของเขา

เอาเป็นว่าเวลาเขางอน คุณจำเป็นต้องรู้วิธีทำให้เขาหายโกรธเลิกงอนคุณไงหละค่ะ ไม่ว่าจะเป็นวิธีแบบเด็ก ที่เหมาะกับผู้ชายคิคุอาโนเนะ อย่างชวนเขามาเกี่ยวก้อยคืนดีกัน"ตัวไม่งอนเขาแล้วน่ะ" หรือสำหรับผู้ชายบางคน ผู้หญิงเราต้องเล่นบทโศกเเบบตีหน้าเศร้าเล่าความเท็จ เพราะใจของผู้ชายประเภทนี้ทำด้วยเหล็กไหลคะ เเข็งเอามากๆ ถ้าไม่บีบน้ำตาขอความสงสารก็ไม่หายโกรธ

15. How to socialize with this folks รู้วิธีการเข้าสังคมกับคนของเขา

ความรักไม่ได้ทำให้คุณรักและเจอเรื่องวุ่นวายสาละวนกันเเค่สองชีวิตเท่านั้น มันเป็นเรื่องที่เลี่ยงไม่ได้หากคุณจะต้องไปปฏิสัมพันธ์ทำความรู้จักกับเครือญาติ เพื่อนพ้อง และคนรู้จักของเขาอีกด้วย คุณเลยจำเป็นต้องรู้วิธีทำความรู้จักและคุ้นเคยกับคนของเขาซึ่งต้องบอกว่าคนแวดล้อมกายเขาเหล่านี้ หากคุณทำความรู้จักและเข้ากันได้ดี ก็ส่งผลบวกกับความรักของคุณ แต่ถ้าคุณทำได้ผลตรงกันข้ามแล้วละก็คนเหล่านี้ก็กลายเป็นพายุที่คอยจ้องจะเล่นงานเรื่องความรักของคุณและเขาให้จมดิ่งอยู่ใต้ทะเลเลยล่ะ

16. How to get familiar with sweet talks รู้วิธีปรับตัวให้เข้ากับการพูดหวานๆ

แต่ก่อนแต่ไร หากอากัปกิริยาการพูดของคุณฟังดูเป็นมะนาวไม่มีน้ำ หรือร้ายเเรงเข้าขั้นน้ำตาลขมกับบุคคลพิเศษอย่างเขา ต้องขอไว้สักคนหนึ่งล่ะค่ะที่คุณจะต้องพูดดีแบบหวานชื่นรื่นหูอารมณ์ของเขา ซึ่งการพูดนี้ถือเป็นความประทับใจที่มีผลสำคัญต่อการอยู่รอดของความรักของคุณเลยล่ะ เขาถึงได้เปรียบเปรยผู้หญิงสวยแต่วจีไม่ไพเราะว่า "สวยแต่รูป จูบไม่หอม" ไงเล่าคะ

17. How to maintain impression รู้วิธีคงความประทับใจ

อย่าให้การพบกันเพียงครั้งเเรกกลายเป็นเพียงความประทับใจครั้งแรก และประทับใจเดียวของเขาค่ะ อย่างนั้นเท่ากับว่ายิ่งใกล้ชิดยิ่งสนิทสนมกับคุณแต่กลับยิ่งประทับใจน้อยลงไปอีก ซึ่งนั้นน่าจะส่งผลติดลบกับความสัมพันธ์และความรู้สึกในใจเขาเป็นแน่ ดังนั้น ทิศทางความประทับใจของความรักที่ควรก็คือ ครั้งนี้เรียกว่าประทับใจมากๆ แล้ว ครั้งต่อไปยิ่งน่าประทับใจยิ่งขี้นๆไปอีก ความรักถึงจะอยู่รอดปลอดภัยค่ะ

18. How to maintain physical appearance รู้วิธีคงความงาม

อย่าเลี้ยงดูปูเสื่อกับความรักมาก จนรักสนิม ไซส์กลายเป็นรักบิ๊กไซส์ ซึ่งผู้หญิงมีความรักหลายคนมักเป็นเช่นนั้น พวกเธอจะพองตัวไปตามปริมาณและขนาดของความสุขความรัก กว่าจะรู้ตัวก็ต้องมานั่งเสียน้ำตาและเสียใจทีหลัง ตอนที่เขาเปลี่ยนคำเรียกคุณจาก "ที่รัก" มาเป็น "น้องอ้วน" แทนไงค่ะ

19. How to learn sex lessons รู้วิธีพัฒนาแและเรียนรู้เซ็กซ์

ความรักกับเซ็กซ์ดูเหมือนจะกลายเป็นเรื่องเดียวกันไปซะแล้ว มีผู้รู้บอกว่าเซ็กซ์ครั้งแรกๆของคุณอาจแข็งที่อเป็นกิ่งไม้บนเตียงได้ แต่หลังจากนั้นคุณจำเป็นต้องมีพัฒนาการค่ะ เพราะการมีเซ็กซ์ครั้งแรกๆ ผู้ชายจะตื่นเต้นกับความสดใสซาบซ่าในตัวคุณ แต่หลังจากนั้นเขาจะไม่รู้สึกเช่นนั้นต่อไปแล้ว ดังนั้น คุณต้องอาศัยลูกเล่นและความชำนาญการมาตรึงความสนุกให้เขาอยากมีอะไรกับคุณเรื่อยๆ

20. How to confront upset รู้วิธีเผชิญหน้ากับความผิดหวัง

หลายคนเตรียมใจมาเพียงแต่รับความสุขจากความรัก แต่หาได้คาดว่าตัวเองอาจจะต้องเผชิญกับความรู้สึก หรืออารมณ์อันไม่สมหวังจากความรัก เหตุรักเป็นพิษแบบแฟนมีกิ๊ก แฟนเป็นเกย์ แฟนบอกเลิก หรือร้ายแรงเเละสะเทือนอารมณ์แบบพลัดพรากตายจาก เป็นอะไรที่คุณควรจะเตรียมใจไว้่บ้างเพราะไม่ใช่ทุกคู่ที่ความรักจะพบแต่ความสุขสมหวังนะคะ

ความรักของคุณจะรุ่งหรือร่วงทดสอบได้จากการร้องเพลง

1. คุณทะเลาะกับเพื่อนขี้เก๊กเลยถูกท้าว่าให้ไปร้องเพลงโชว์ในงานประจำปีของบริษัท พอรับคำท้าไปแล้วคุณถึงนึกได้ว่าตัวเองร้องเพลงได้ห่วยมาก คุณจะ......
a. ไปสมัครเรียนร้องเพลงระยะสั้น
b. ฝึกร้องเพลงโปรดกับเทปคาราโอเกะที่บ้าน
c. ให้เพื่อนที่ร้องเพลงเจ๋งมาช่วยฝึกให้
d. เราไม่ใช่นักร้องอาชีพ ทุกคนคงเข้าใจหละน่า
คำตอบข้อนี้่หมายถึง ถ้าคุณทะเลาะกับเเฟนจนพลั้งปากบอกเลิกกับเขาทั้งๆที่ในใจไม่ได้อยากเลิกเล้ย.....คุณจะทำอย่างไร
คนที่เลือกข้อ a คุณเป็นคนฟอร์มจัด เรื่องจะไปง้อกันต่อหน้าไม่มีเเน่ แต่คุณจะใช้วิธีส่งข้อความไปอ้อนหรือส่งเพื่อนๆไปสะกดจิตให้เขาคิดถึงอดีตหวานตอนมีคุณคอยหลอกหลอนป้อนข้าวป้อนน้ำอยู่ใกล้ๆ แล้วรีเทิร์นกลับมาหาคุณเอง
คนที่เลือกข้อ b คุณเชื่อมั่นในคติรักต้องตื๊อ ถ้าเขาทำท่าว่าจะชิ่งไปจริงๆคุณจะตื๊อโลกแตก กลเม็ดเคล็ดลับไหนที่ว่าดี ลูกอ้อนเเบบไหนที่ว่าเด็ด คุณจะงัดออกมาใช้หมดจนกว่าเขาจะใจอ่อน ไม่ก็เอากิ๊กมาโชว์เห็นๆนั่นหละคุณถึงจะถอดใจ
คนที่เลือกข้อ c คุณไม่ชอบเสียเวลาอ้อมค้อม แทนที่จะเสียเงินซื้อขนมนมเนยไปส่งส่วยพี่เขาให้มันเปลืองโดยใช่เหตุ คุณจะเดินเเมนๆเข้าไปขอโทษ ให้เขาเห็นความจริงใจว่าคุณไม่อยากเสียเขาไปจริงๆ ออกจะน่ารัก เขายังอยากกลับไปเป็นโสดอีกก็ให้รู้ไป
คนที่เลือกข้อ d ไหนๆก็ไหนๆแล้วจะถอยหลักกลับก็คงเสียเซลฟ์ คุณก็เลยจะลองสุดสวิงริงโก้กับความโสดสักพัก ถ้ามันดีก็จะขอโสดต่อไป เเต่ถ้าอยู่คนเดียวเเล้วมันเซ็งเป็ด คุณถึงค่อยหาทางสร้างปรากฏการณ์ลมพัดหวนกับเขา

2. คุณจะเลือกร้องเพลงสไตล์ไหน
a. เพลงที่ได้โชว์พลังเสียงมากๆ
b. เพลงจังหวะง่ายๆ ร้องไม่ยาก
c. ฮิพฮอพ แดนซ์กระจายไปเลย
d. เพลงภาษาเกาหลี ดูอินเตอร์ดี
คำถามในข้อนี้หมายถึง ในช่วงโปรดมชั่นที่เพิ่งจีบใหม่ๆ คุณอยากให้หวานใจเห็นว่าคุณเป็นคนแบบไหน
คนที่เลือกข้อ a คุณอยากให้เขามองคุณในภาพของผู้่หญิงหนักแน่น พึ่งพาได้ เป็นคนที่เขาสามารถปรึกษาได้ทุกเรื่องคุณคิดว่าผู้หญิงแบบนี้ดูฉลาด ไม่ไร้สาระ มีประกายออร่าดีออก
คนที่เลือกข้อ b ไม่ว่าตัวจริงคุณจะห้าวโหดโครตเพชรฆาตหรือไม่ก็ตาม แต่คุณอยากให้เขามองคุณเป็นสาวหวานสดใสน่ารักแบบสาวรุ่นใหม่ ออกเเนวเกาหลีนิดๆอย่าวที่ผู้ชายชอบกันนั่นเอง เพราะผู้หญิงแบบนี้ทำผู้ชายหัวใจละลายได้ง่าย อยากได้อะไรแฟนมักไม่ขัดใจ หรือถ้าทำผิด แค่กะพริบบิ๊กอายวิ้งๆ เขาก็ยกโทษให้แล้ว
คนที่เลือกข้อ c คุณต้องการเป็นคนเก่ง หญิงมั่นห้าวๆ ลุยๆ เป็นตัวของตัวเองในสายตาเขา อาจเพราะตัวจริงของคุณเป็นคนแบบนี้อยู่แล้ว และคุณรู้ดีว่าถึงจะฝืนทำตัวแบบอื่นมันก็ไม่เวิร์คหรอก
คนที่เลือกข้อ d ภาพของคุณหนูหวานๆ ดูหรูหราแถมน่าทะนุถนอม มันช่างสวยงามเหือนนางในฝัน คุณเลยอยากให้เขามองคุณแบบนั้นบ้าง แต่คุณหนูอย่างคุณต้องอ่อนหวานดูดีมีสกุลนะ พวกวีนเหวี่ยงร้องกรี๊ดเหมือนถูกผีเข้าแบบในละครไม่ใช่คุณแน่นอน

3. ระหว่างคุณกำลังแอ็คท่าโชว์ลีลาอยู่บนเวที ยายเพื่อนตัวดีก็วางแผนสกัดดาวรุ่ง คุณคิดว่าเขาจะทำอะไร ระหว่าง...
a. สับคัทเอาท์ให้ไฟดับหมดท้ังงาน
b. แกล้งวางเปลือกกล้วยไว้บนเวทีให้คุณลื่น
c. ดับไมโครโฟนให้ไม่ได้ยินเสียง
d. ปล่อยข่าวไปทั่วงานว่าคุณกำลังแสดงตลก
คำถามข้อนี้หมายถึงถ้าหากมีผู้่หญิงอื่นมาจีบแฟนคุณ คุณจะเป็นอย่างไร
คนที่เลือกข้อ a จะเหลือหรือ! ปกติคุณก็เป็นคนไม่ปล่อยวางเป็นจอมคิดมากตัวแม่อยู่แล้่ว ยิ่งเป็นเรื่องคอขาดบาดตายอย่างนี้มีหรือคุณจะไม่เครียด คุณกลัวไปหมดว่าแฟนจะปันใจ กลัวตัวเองจะสวยน่ารักสู่ผู้หญิงคนอื่นไม่ได้ คิดๆๆๆ ทั้งๆที่เเฟนคุณไม่ได้มีท่าทีอะไรกับมือที่สามเลยสักนิดเดียว
คนที่เลือกข้อ b ต่อให้มือที่สาม ที่สี่ ที่ห้า ยกโขยงกันมาทั้งทีมคุณก็ไม่สน เพราะคุณเชื่อมั่นในความซื่อสัตย์สุดจริตรักเดียวใจเดียว(รวมทั้งพลังรากราคะ ที่ต้มให้เขาดื่มทุกวัน) และเชื่อด้่วยว่ายายชนีพวกนี้คงไม่มีความอดทนมากเท่าไหร่ ถ้าแฟนคุณไม่เล่นด้วย เดี๋ยวนางก็ไปหาเหยื่อที่อื่นเองหละ
คนที่เลือกข้อ c เรื่องเเบบนี้ไว้ใจกันได้ที่ไหน ถึงปากจะบอกว่าเชื่อแต่ที่จริงคุณจะแอบจับตามองสุดฤทธิ์ ถ้าแฟนเพลอทำตัวดี๊ด๊า หลงระเริงกับการตามจีบของมือที่สามล่ะก็ เย็นนี้ได้เคลียร์กันยาวแน่
คนที่เลือกข้อ d คุณกลับภูมิใจเสียอีกที่มีคนอยากมากินน้ำต้องใต้ศอก แสดงว่าสายตาการเลือกแฟนของคุณต้องใช้ได้ คนถึงอยากแย่ง ยกเว้นแต่คนที่มาจีบแฟนคุณจะสวยน่ารักกว่า ไม่งั้นคุณไม่เก็บมาคิดให้เวียนเฮดหรอก

4. พอคุณร้องเพลงจบ คนฟังก็ปรบมือกันใหญ่ เล่นเอาคุณยือซะไม่มี แต่ยายคู่อริกลับอิจฉาจนควันออกหู คุณเสยพูดกับเขาว่า
a. เสียใจด้วยนะ เธอทำอะไรฉันไม่ได้หรอก
b. เรื่องร้องเพลงฉันถนัดอยู่แล้วเชอะ
c. ดีแต่ท้าคนอื่น ตัวเองทำได้รึเปล่าเถอะ
d. ธรรมะย่อมชนะอธรรมย่ะ
คำถามข้อนี้จะเฉลยให้รู้ว่า ถ้าหากคุณถูกแฟนเก่าของแฟนถูกรังควานคุณจะแก้สถานการณ์อย่างไร
คนที่เลือกข้อ a คุณจะเจรจากับผู้หญิงคนนั้นตรงๆ ในฐานะเรื่องลูกผู้หญิงด้วยกัน พยายามใช้น้ำเย็นเข้าลูบ ไม่กระตุ้นต่อมเดือดของเขาเรื่องจะได้จบเร็วๆ
คนที่เลือกข้อ b ใครทำอะไรคุณๆต้องขอเขาคืนเป็นสองเท่า ยิ่งฝ่ายนั้นอาละวาดมากเท่าไหร่คุณก็ยิ่งสนุกเพราะยังไงซะคุณก็ถือไพ่เหนือกว่า ก็แฟนหล่อนมาเป็นแฟนชั้นแล้วนี่นา...หุหุ
คนที่เลือกข้อ c คุณไม่ชอบใช้กำลังทำร้ายใคร แต่ถนัดใช้คารมตอบโต้เเบบผู้่ดี ให้อีกฝ่ายเอากลับไปนอนเจ็บใจที่บ้านแบบนางเอกเรื่อง "เมียหลวง" ยายคู่แข่งจะได้รู้เสียทีว่าคุณกับเขามันคนละระดับกัน
คนที่เลือกข้อ d เรื่องอะไรคุณจะต้องเอาชื่อเสียงความเป็นกุลสตรีศรีสยามไปเกลือกกลั้วกับคนพรรค์นั้น ในเมื่อคุณมีแฟนหนุ่มตัวต้นเหตุอยู่ทั้งคน คุณส่งเขาเป็นทูตไปเจรจาให้อีกฝ่ายยอมถอยทัพกลับไปเองไม่ดีกว่าหรือ เเต่ถ้าคุยแล้วฝ่ายนั้นไม่ยอมหยุด คุณก็จะถือซะว่าเป็นเสียงนกเสียงกา ไม่ต้่องไปสนใจฟัง

วันจันทร์ที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2553

7 เหตุที่ทำให้ผู้หญิงเรากลายเป็นคนลังเล








ผู้ชายมักจะค่อนขอดผู้หญิงเราใจไม่เเข็ง ตัดสินใจอะไรอย่าไม่เด็ดเดี่ยวเหมือนผู้ชาย เวลาให้ทำอะไรก็ไม่ดุเด็ดเเละก็มักเอาเรื่อของอารมณ์ ความรู้สึกมาปะปนให้เลอะเทอะ บางทีก็ใช้เวลาพิจารณาใคร่ครวญนานเกินเหตุ หรือบางครั้งก็เปลี่ยนใจกลับคำตัดสินใจง่าย ๆ ซะอย่างงั้น เเต่ต้นเหตุการเป็นโลเลนั้นมันก็สืบเนื่องมาจากพื้นฐานนิสัยขี้เกรงใจ เเละจิตใจอันอ่อนโอนของผู้หญิงเราทั้งนั้น


1. เเคร์ความรู้สึกคนอื่น

ผู้หญิงเรามักสนใจกันสายตาเเละความรู้สึของคนอื่นที่มีต่อตนเองที่มีต่อตนเองที่ทำให้ลังเล เเบบที่คนอื่นจะมองว่าตัวเองเป็นผู้หญิงใจร้ายที่ตัดสอนใจทำอะไรลงไปเเบบไม่เเคร์ความรู้สึกเเละจิตใจของผู้อื่น


2. ด้วยความเป็นคนขี้สงสาร

เเบบตอนเเรกก็จะกะฟันธงเเบบตัดขาดเป็นขาดไม่สนใจไยดีอะไร เเต่สุดท้ายเเละท้ายที่สุดด้วยความอ่อนโยนเเล้วจิตอันเมตตาธรรมคุ้มจุนโลกของเพศหญิง ท้ายที่สุดจากอารมณ์นางมารก็เปลี่ยนใจเเปลงร่างเป็นเทพธิดาผู้อารีเพราะความขี้สงสารเเทน

3. มีเงื่อนไขเป็นความใกล้ชิดสนิทสนม ว่าด้วยความสัมพันธ์เเล้วก็ลงเอยด้วยเส้นสายที่ถูกผลักดันด้วยความสนิทชิดเชื่้อ ตอนเเรกที่ผู้หญิงเราจะให้ทุกอย่างเป็นไปเเละพิจารณาตามกฎเกณฑ์เเละเงื่อนไขทุกอย่าง เเต่ปรากฎว่าผลที่ออกมากลับเกิดขึ้นเเละมีผลลัพธ์ที่เป็นไปตามการทำงานอย่างหนักของคนที่อยู่เบื้องหลัง

4. ได้อย่าง ไม่อยากเสียอีกอย่าง

ไม่มีการตัดสินใจใดที่มีเเต่ได้การได้อย่างเดียว เมื่อตัดสินใจไปเเล้วก็ต้องเสียโอกาสกับสิ่งที่เราตัดสินใจไม่เลือก เเบบการตัดสินใจในเรื่องความรักระหว่างการเลือกคบผู้ชายหน้าตาดีเเต่จนกับคบผู้ชายที่มีฐานะเเต่หน้าเหลาเหย่ ข้อจำกัดในเเต่ละทางเลือกอาจทำให้คุณอึดอัดเเละลังเลได้


5. เพราะผู้ชายเป็นเหตุ

ไม่ต้องพูดอะไรกันมากกับเหตุกวนใจที่่ทำให้ใจลังเล อันเนื่องมาจากมนุษย์เพศชายนี่เอง สมมติว่าคุณมีงานปาร์ตี้เลี้ยงสังสรรค์ 2 งานให้เลือกไป ระหว่างงานเลี้ยงเพื่อนร่วมรุ่นโรงเรียนสตรีล้วนที่มีเเต่เพื่อนผู้หญิงร่วมรุ่นไปรวมตัวกัน กับงานเลี้ยงสังสรรค์นักเรียนจบโทนอกที่มีผู้ชายหน้าตาดี ฐานะเเละหน้าที่การงานเลิศมารวมกันให้เพียบ เเบบนี้คุณอาจไม่ลังเลที่จะเลือกไปงานไหน เเต่สิ่งที่คุณลังเลก็น่าจะเป็นว่าจะหาคำเเก้ตัวปฏิเสธไม่ไปร่วมงานเเรกได้อย่างไรดีมากกว่ามั้ง ?


6. ว่ากันด้วยเรื่องค่าใช้จ่าย

คงไม่ใช่เฉพาะผู้หญิงเราอย่างเดียวหรอกมั้ง? หากเราอยู่ในสภาวะที่มีข้อจำกัดทางการเงิน มิได้รวยล้นฟ้าเเบบเเคะเศษสตางค์ในกระเป๋า เรื่องภาระค่าใช้จ่ายจึงเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เรารู้สึกลังเลไม่เเน่ใจ ตัวอย่างเช่น อยากได้กระเป๋าเเบรนด์เนมหรูสักใบ เเต่ก็กลัวกับการจ่ายในราคาตัวเลขที่สะท้านหัวใจ อีกใจก็อยากจะซื้อของก๊อบที่ราคาถูกกว่าหลายเท่าตัวเเต่ก็กลัวคนอื่นจับได้ว่าใช้ของก๊อบ


7. ไม่มีความรู้ในเรื่องนั้น ๆ


ในเรื่องที่เราไม่มีความรู้เลยอย่างเรื่องไกลตัวเพศหญิงอย่างงานช่างหรือเรื่องบำรุงรักษาเครื่องจักรรถยนต์ เหตุที่ทำให้เราลังเล นอกจากไม่รู้ว่าทางเลือกไหนมีข้อดีเเละข้อเสียอย่างไรเเล้ว บางทีที่ยังลังเลตัดสินใจไม่ได้นั้นก็เพระาเราไม่รู้ว่าเรื่องเทคนิคที่ไม่คุ้นทักษะผู้หญิงนั้นที่เเท้มันคืออะไรด้วยซ้ำ ถ้าหากลองเปิดกระโปรงรถออกดู มีชิ้นส่วนเครื่องยนต์ไม่กี่ชิ้นหรอกที่ผู้หญิงเรารู้จัก นั้นเป็นเหตุที่มานของประโยคเย้ยหยันจากผู้ชายที่ว่าผู้หญิงดีเเค่ขับ เเค่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยเกี่ยวกับรถยนต์